เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

หมายสำคัญและการอัศจรรย์ของพระเยซูคริสต์

หมายสำคัญและการอัศจรรย์ โดย โรเบิรต จี บาร์บาร์เรีย
ความหมายของคำว่าหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ดิกชันนารีได้อธิบายคำว่าการอัศจรรย์(miracle)ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สามารถอธิบายได้ด้วยกฏของธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามการอธิบายที่ถูกต้องมากกว่าของคำว่าอัศจรรย์ คือ พระเจ้าได้แทรกแซงเข้ามามีส่วนควบคุมอยู่ในสถานะการณ์นั้นๆให้ เปลี่ยนจากสิ่งที่คาดหวังให้เกินคาดคิดหรือหวังไว้

หมายสำคัญและการอัศจรรย์ของพระเยซูคริสต์

ช่วงขณะที่พระเยซูคริสต์อยู่บนโลกได้สำแดงการอัศจรรย์ สาวกชื่อยอห์นได้บันทึกไว้ว่า

ยอห์น 21:24 สาวกคนนี้แหละ ที่เป็นพยานถึงเหตุการณ์เหล่านี้และเป็นผู้ที่เขียนสิ่งเหล่านี้ไว้ และเราทราบว่าคำพยานของเขาเป็นความจริง

ยอห์น 21:25 มีอีกหลายสิ่งที่พระเยซูได้ทรงกระทำ ถ้าจะเขียนไว้ให้หมดทุกสิ่ง ข้าพเจ้าคาดว่า แม้หมดทั้งโลกก็น่าจะไม่พอไว้หนังสือที่จะเขียนนั้น เอเมน

John 21 :24 This is the Disciple that testifieth of these things, and wrote these things: and we know that his testimony is true.

John 21:25 And there are also many other things which JESUS did, the which, if they should be written every one, I suppose that even the world itself could not contain the books that should be written. A-men '.

นั้นคือข้อพระคำภีร์ที่ได้เขียนบันทึกปิดเรื่องราวโดยสาวกยอห์นในพระกิติคุณของข่าวประเสริฐโดยยอห์นเป็นผู้ติดตามและบันทึกข้อความ ยอห์นเป็นสาวกที่ระมัดระวังรอบคอบเป็นพิเศษในสิ่งเขาเขียนถึงเรื่องของพระเยซูคริสต์ และได้เขียนเหตุการณ์ที่ยอห์นได้มีความสัมพันธ์ไกล้ชิดส่วนตัวกับพระเยซูคริสต์เท่านั้น ถึงแม้ยอห์นได้เชื่อถือในหลายสิ่งที่ได้ที่ได้บอกเล่าโดยนางมารีย์ มารดาของพระเยซูคริสต์และโดยสาวกคนอื่นๆ แต่ ยอห์นได้บันทึกเพียงส่วนที่ ตัวเขาเองได้เห็นและมีประสบการณ์เท่านั้น นี้คือหนึ่งเหตุผลว่าทำไมยอห์นได้ เป็นคนถูกเลือกให้เขียนบันทึก ในหนังสื่อวิวรณ์ของพระเยซูคริสต์ แทนที่จะเป็นหนึ่งในสาวกคนอื่นๆ

ยอห์นได้บอกถึงบทความสุดท้าย เป็นการปิดเรื่องราวใน หมาย สำคัญและการอัศจรรย์ที่พระเยซูคริสต์ได้สำแดงอย่างมากมายนับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าจะบันทึกในสมุดต่างๆ ในโลกนี้คงไม่มีสมุดไหนบรรจุเรื่องราวเหล่านั้นได้ ยอห์นได้พูดเกินเป็นเหตุการณ์ความจริงหรือ ที่ยอห์นพูดคือความหมายอย่างที่เขียนบันทึกบอกไป ? ยอห์ นหมายความอย่างที่ทุกๆคำพูดที่เขาได้เขียนไว้ในพระกิติคุณยอห์นและรวมด้วย กันกับ หนังสือวิวรณ์ของพระเยซูคริสต์ ทั้งสองเล่มไม่มีข้อผิดพลาดสักนิดเดียว

ใน ช่วงระยะเวลาอันสั้นหลังจากที่พระเยซูคริสต์ได้รับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณ บริสุทธิ์ พระองค์ได้เริ่มต้นสำแดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ เริ่มจากเปลี่ยนน้ำให้เป็นไวน์ และจบด้วยหมายสำคัญอัศจรรย์สุดท้ายพระองค์ได้เติมปลาในอวนดักปลาของสาวกด้วยจำนวนปลา 153 ตัว. .ในระหว่างช่วงสามปีครึ่ง หลายๆ เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการสังเกตจากสาวกหลายๆท่านของพระเยซูคริสต์ จนกระทั่ง พระเยซูคริสต์ได้เรบเจอร์ถูกรับออกจากโลกไปสวรรค์และพวกเขาถึงได้เข้าใจว่า ทำไมพระองค์ถึงได้ทรงกระทำสิ่งเหล่านั้น

พระ เยซูคริสต์ได้ทำให้คนตาบอดมองเห็น คนหูหนวกได้ยิน พระองค์ได้ทรงรักษาจนเจ็บป่วย และเดินอยู่เหนือน้ำ พระองค์ได้ทรงมอบชีวิตให้กับคนที่ตายแล้ว (ให้คนเป็นขึ้นมาจากความตาย) หมายสำคัญการอัศจรรย์ทั้งหมดที่พระเยซูคริสต์ทรงสำแดงนั้น ได้ยังคงจนถึงทุกวันนี้ถึงแม้ว่าพระองค์ได้สำแดงในฝ่ายจิตวิญญาณ แต่ในอดีตพระเยซูคริสต์ได้กระทำในร่างกายของเนื้อหนัง หมายสำคัญและการอัศจรรยนี้พระองค์ได้ยังคงดำเนินอยู่จนถึงทุกวันนี้และหมาย สำคัญนี้จะไม่เคยหยุดยั้ง พระเจ้าตรัสดังนี้จะยังคงกระทำต่อไปเรื่อยๆ

ใน ช่วงสองพันปีที่ผ่านมา ตั้งแต่พระเยซูคริสต์ได้เสด็จออกจากโลก ถ้าผู้ใดผู้หนึ่งได้สัมผัสพระเยซูคริสต์ ให้เขียนหนังสือในเหตุการณ์ต่างๆและหมายสำคัญการอัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นบน โลกนี้ หลังจากชีวิตพวกเขาได้รับบัพติสมาด้วยไฟแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในโลกนี้ไม่สามารถ บรรจุสิ่งที่เขียนบันทึกลงยืนยันในสมุดไว้ได้ พระเยซูคริสต์ได้ยังคงสำแดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ไม่ ได้หยุดยั้งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการบัพติสมาด้วยไฟในพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์อยู่ และดังนั้นจึงสามารถทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ของพระองค์ได้

พระเจ้าทรงสำแดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์

ผม ได้เห็นกับตาตัวเอง ในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำและความสามารถแบบไร้ขีดจำกัด พระองค์กระทำได้ทุกสิ่งที่พระองค์เลือกที่จะทำบ่อยครั้งตามใจที่พระองค์ ปรารถนา และพระเจ้ารักที่จะทำสำแดงการอัศจรรย์ สิ่งที่พิเศษที่สุดคือพระเจ้าชอบที่จะ กรุณาตรงไปที่พวกเขาคนที่รักและนมัสการพระองค์(ด้วยจิตวิญญาณและความจริง) พระเจ้าจะสำแดงการอัศจรรย์หลังจากพระองค์ชอบพระทัยและโปรดปรานเมื่อเป็นคนนั้นที่รักของ

ผม ได้ถามพระเจ้าให้พระองค์ช่วยผมในหลายสิ่งหลายอย่าง มีเพียงบางสอง สามสิ่งที่พระองค์ยังไม่ได้ประทานให้แก่ผมจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพระองค์บอกผมว่าให้อดทนรอคอยในสิ่งที่พระองค์ยังไม่ทรงกระทำมอบให้แก่ผม สิ่งทั้งหมดที่ผมได้เอ่ยถามพระองค์จะทรงเมตตากระทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ไม่ฉะนั้นทุกอย่างจะกลายเป็นอดีตอย่างแน่นอน มากไปกว่านั้น พระเจ้าได้กระทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์แก่ผมนั้นเกินกว่า(มากกว่า)ที่ผมได้ คาดหวังไว้

ในแต่ละสถานะการณ์ ผมได้รับมากเกินกว่าที่ผมได้เอยถามขอ แต่อย่างไรก็ตามผม พระเจ้าได้ตอบคำอธิษฐานของผม คำตอบจากการอธิษฐานนั้น จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ผมได้รับแบบกินคาดคิด หรือเกินที่ผมคาดหวังไว้ เมื่อ ผมได้อธิษฐานในบางสิ่ง บางอย่าง ในปกติผมจะได้รับคำตอบในทันทีจากพระองค์ ไม่ว่าจะเป็น คำตอบว่าใช่ หรือไม่ใช่ ในการอธิษฐานวิงวอนของผม ในปีที่ผ่านมาและมากกว่าครึ่งได้เป็นการตอบคำอธิษฐาน ว่าใช่ ครั้งหนึ่งพระเจ้าได้บอกผมว่า พระองค์อนุญาติตามสิ่งที่ผมได้ทูลขอไป บ่อยครั้งผมพยายามจะหาเหตุผลมาอธิบายคำนวณเป็นรูปธรรม ว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตามผมสามารถบอกท่านได้ว่า กำหนดวันที่เวลาที่ผมได้คำนวณว่าพระองค์จะอนุญาติตอบคำอธิษฐานแก่ผม จะเดาผิดอยู่บ่อยๆเสมอ

ผม ได้เป็นคนที่ไกล้ชิดกับพระเจ้าติดสนิทมากคนหนึ่งในโลก แต่อย่างไรก็ตาม พระเจ้าไม่เคยบอกผมเมื่อพระองค์จะกระทำบางสิ่งได้อย่างไร หรือบางสิ่งพระองค์ได้บอกกับผมว่า พระองค์จะทำหมายสำคัญการอัศจรรย์อันนี้ จะบอกผมก่อนที่พระองค์จะกระทำ ผมเชื่อว่าพระองค์ต้องการรักษาชีวิตผมจากการไม่ให้เดินในอยู่ในความมืด และมากไปกว่านั้น พระองค์ได้กระทำการอัศจรรย์เพื่อที่จะตื่นเต้นถึงแม้จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะเหตุการณ์นั้นเกินความคาดหมาย เกิดความคาดคิด นี้คือเหตุการ์ณ์เกินความคาดหวัง จะทำให้เป็นอัศจรรย์ซ้อนอัศจรรย์ เพราะถ้าเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ นั้นคือสิ่งที่เราสามารถอธิบายได้ สิ่งนั้นก็ไม่ใช่หมายสำคัญและการอัศจรรย์

การอัศจรรย์ไม่ใช่เพิ่งจะเริ่มต้นเกิดขึ้น(ในอดีตก็มีมานานแล้ว)

หมาย สำคัญการอัศจรรย์ส่วนใหญ่ที่ปรากฏให้เห็นได้มีมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เพิ่งจะ เริ่มเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถจะยืนยันให้ท่านมั่นใจว่า การอัศจรรย์ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น พระเจ้าชอบพระทัยที่จะไม่เปิดเผย(กระทำในที่ลี้ลับ)หมายสำคัญการอัศจรรย์ที่ พระองค์ทรงกระทำ และพระองค์จะชื่นชอบที่จะให้มนุษย์อยากรู้อยากเห็นในธรรมชาติของพระองค์ โดยพวกเขาพยายามที่จะหาคำกัดความในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ มนุษย์ต้องการจะรู้สึกถึงความจำเป็นที่จะหาสาเหตุอธิบาย อย่างชัดเจนในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และเมื่อพวกเขาไม่ได้รับคำตอบต่างๆ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์จะรู้สึกรำคาญใจ ที่พวกเขาเหล่านั้นข้องใจและหมดหวัง นี้เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะ เมื่อมนุษย์จะกดดันให้อธิบายเหตุการณ์ เหมือนสุ่มตัวอย่างในการกระทำต่างๆ หรือคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้น เพราะว่า ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนการสุ่มตัวอย่างการกระทำต่างๆ และไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องบังเอิญ พระเจ้าตรัสดังนี้

หมายสำคัญและการอัศจรรย์นี้ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น ถ้าสิ่งนี้เพิ่งจะเกิดขึ้น ดังนั้นจะมีบางสิ่งที่เกิดขึ้นโดยปราศจาการควบคุมของพระเจ้า และ ไม่มีสิ่งใดนอกเหนือไปในการควบคุมของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ทุกสิ่งเกิดการปรากฏขึ้นอย่างมีเหตุผลในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อจะไม่มีบางสิ่งที่เหลือเป็นโอกาส เพราะสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ภายใต้การตัดสินใจอนุญาติของพระเจ้า ผู้ทรงสร้างและกำหนดทุกสิ่งเป็นไปตามนั้น

พระ เจ้าไม่เหมือนกับมนุษย์ พระองค์ไม่ข้อจำกัดในเรื่องของเวลา หรือไม่มีอะไรมาจำกัดพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ต้องการจะกระทำ นี้คือทำไมถึงเป็นสาเหตุว่า พระองค์ไม่เคยโกหก เพราะ เพราะเสียงตรัสของพระองค์นั้น สามารถเปลี่ยนจักรวาลและพับเก็บรวมในตัวของมันเอง มาก ไปกว่านั้น พระเจ้าตรัสอะไรไป นั้นพระองค์สามารถที่จะเลือกตามพระทัยของพระองค์ ในหลายๆสิ่งในเวลาเดียวกัน และไม่มีผู้ใดสามารถมาหยุดการกระทำสิ่งนั้น ที่พระองค์ต้องการจะกระทำ

พระ เจ้าตัวของพระองค์เอง เป็นการอัศจรรย์ตลอดไปเป็นนิจนิรันดร์ เป็นผู้ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถ ที่จะหาคำมาบรรยาย อธิบายในความสลับซับซ้อน หรือในความเป็นพระผู้สร้าง พระองค์ไม่ต้องคิด เพราะพระองค์ทรงรู้ทุกสิ่ง และโดยสติปัญญาของพระองค์นั้น พระองค์สามารถจะทำอะไรที่พระองค์ชอบพระทัยก็ได้โดยปราศจากการยับยั้งหรือขีด จำกัด

โดยทั่วไปถ้าท่านได้มองไปรอบๆตัวของท่านและท่านจะเห็นอัศจรรย์ โลกนี้ก็เป็น การสนันสนุนส่งเสริมในตัวของมันเองในการเกิดในวงจรชีวิต และ มีสิ่งที่จำเป็นต้องสนับสนุนส่งเสริมการมีชีวิตให้คงอยู่ได้ โลกใบนี้และฤดูกาล นั้นได้จำเป็นที่จะต้องมีต้นไม้หลากหลายชนิด และพืชพันธุ์ต่างๆสำหรับเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่เป็นอาหารที่ได้เกิดขึ้นมา ได้มีน้ำในที่จะเลี้ยงดูสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง และเป็นวงจรชีวิต จากทะเลไปถึงพื้นดิน โลกนี้ได้ผลิตอากาศ ให้เหมาะสมกับสิ่งต่างๆที่มนุษย์และสัตว์ได้มีชีวิตอาศัยอยู่ และต้นไม้และพืชผักนานาชนิดต่างๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนอากาศใหม่เพื่อความสดชื่น นี้เป็นสิ่งอัศจรรย์ในอากาศเป็นเรื่องปกติ แต่ คนบางคนพวกเขายังคงจำเป็นที่จะมีความเป็นตัวของตัวเอง อยากประกาศว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ทำให้การอัศจรรย์นั้นเป็นสิ่งที่พระองค์อนุญาติให้เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องบังเอิญและล้มเหลวที่จะขอบพระคุณพระเจ้าในการทรงสร้าง

ชีวิต นั้นเกิดขึ้นก็เป็นการอัศจรรย์ของพระเจ้า มนุษย์ สัตว์ ปลา ต้นไม้และพืชผลนาๆชนิด ที่ได้เกิดขึ้นแล้วมีตายและเกิดใหม่ขึ้นมา จากเมล็ดพันธ์ที่ยังคงปรากฏเป็นการรักษาการเกิดใหม่ผ่านชั่วอายุของคนหนึ่ง ไปอีกคนหนึ่ง นานเท่านานตราบเท่าที่โลกนี้ยังคงอยู่ ที่ซึ่งมีมนุษย์ได้อาศัยอยู่ยังคงเป็นวงจรชีวิตที่จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน เมื่อครั้งหนึ่งที่บางสิ่งบางชนิดได้ตายลง พระเจ้าได้ทรงโปรดเมตตาสร้างให้มีสิ่งใหม่เกิดขึ้น เพื่อส่งเสริมการมีชีวิต นานแสนนานเท่าที่จะยังคงมีสิ่งมีชีวิตอยู่ โลกนี้ที่ท่านๆได้อาศัยอยู่นั้นไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น

การอัศจรรย์เกิดเป็นความพิโรธโกรธกริ้ว

อีก ในไม่ช้า ท่านจะได้เห็น ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผู้ทรงมีฤทธานุภาพสูงสุด เพราะทุกวันนี้ของพระองค์จะเป็นเหมือนการหลบซ่อนไปจนสุดปลายแผ่นดินโลกไม่ ได้รับรู้ รู้จักพระองค์ เหลือเวลาอีกไม่มาก และพระองค์จะปรากฏตัวให้เห็นในโลกนี้อีกไม่นาน

วิวรณ์ 6:14 ท้องฟ้าก็หายไปเหมือนกับหนังสือที่เขาม้วนขึ้นไปหมด และภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม

วิวรณ์ 6:15 แล้วกษัตริย์ทั้งหลายในโลก พวกคนใหญ่คนโต เศรษฐี นายทหารใหญ่ ผู้มีอำนาจ และทุกคนทั้งที่เป็นทาสและเป็นอิสระ ก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและโขดหินตามภูเขา

วิวรณ์ 6:16 พวกเขาร้องบอกกับภูเขาและโขดหินว่า "จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษโปดกนั้น

วิวรณ์ 6:17 เพราะว่าวันสำคัญแห่งพระพิโรธของพระองค์มาถึงแล้ว และผู้ใดจะทนอยู่ได้เล่า"

Revelation 6:14 And the heaven departed as a scroll when it is rolled together; and every mountain and island were moved out of their places.

Revelation 6:15 And the kings of the EARTH, and the great men, and the rich men, and the chief captains, and the mighty men, and every bondman, and every free man, hid themselves in the dens and in the rocks of the mountains;

Revelation 6:16 And said to the mountains and rocks, FALL ON US, and HIDE US from the FACE of HIM that sittetli on THE THRONE, and from the WRATH of THE LAMB

Revelation 6:17 For the GREAT DAY of HIS WRATH is COME; and who shall be able to stand?

การ อัศจรรย์หลายอย่าง ได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันในโลกนี้ที่พระเจ้าเมตตาให้เกิดขึ้น อีกไม่นานจะหยุดลงอย่างกระทันหัน อย่างฉับพลัน เกิดภัยพิบัติในวันทุกข์ยากลำบากในยุคสุดท้ายของโลกนี้ ฤดูกาลเริ่มเปลี่ยนแปลงแย่ลง และฝนจะไม่ตกทั่วไป แผ่นดินจะแห้งแล้ง พระเจ้าตรัสดังนี้ นี้เป็นเวลาที่การอัศจรรย์เปลี่ยนเป็นความพิโรธโกรธกริ้ว

ลม และทะเล จะเปลี่ยนทิศทางรบกวน ไม่สามารถควบคุมได้ ต้นไม้จะไม่เกิดใบไม้ ในฤดูใบไม้ผลิ (สปริง) และผลไม้ไม่มีเกิดผล นี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก น้ำดื่มจะลดลงและความอดอยาก ความทุกข์ยากลำบากจะเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ที่เริ่มมีชีวิตเกิดขึ้นมา สนามแม่เหล็กโลกในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้หมุนไปในทิศทางที่กลับสลับกัน เพราะว่าพระเจ้าจะเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลก

พระเจ้าได้สำแดงการอัศจรรย์ต่างๆผ่านพระเยซูคริสต์ ดังนั้นมนุษย์ทุกคนได้รับ ความเชื่อวางใจในพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ และหลายคนได้รับ แต่อย่างไรก็ตามมีอีกมายมากหลายคนมากๆ ยังไม่ได้มีความเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าของทุกสิ่งที่มีชีวิตอาศัยอยู่ตรัสดังนี้ พวกเขาเหล่านั้นที่ไม่ได้เห็นการอัศจรรย์ แต่จะเห็นเป็นความพิโรธโกรธกริ้ว ด้วยเวลาที่เป็นหมายสำคัญและการอัศจรรย์นั้น เปลี่ยนเป็นความพิโรธ ซึ่ง จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า รออยู่ที่ประตู ประตูนี้จะเปิด และเวลาของการกลับใจสารภาพบาปนั้นได้ผ่านไปจนไม่เหลือเวลาเหลืออยู่แล้ว พระเจ้าตรัสดังนี้

เมื่อเสียงเป่าแตรครั้งที่หนึ่งดังขึ้น และนั้นคือเริ่มต้นวันแห่งความทุกข์ยากเจ็ดปีแบบที่ไม่เคยมีเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาก่อนได้เริ่มปรากฏ มีเพียงผู้ที่มีเครื่องหมายและได้รับการป้องกันที่หน้าฝาก โดยพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์นั้น จะยังคงได้รับหมายสำคัญและการอัศจรรย์ผู้คนทั้งหมดในโลกที่หลงอยู่บนโลกตลอดบนผิวโลก จะได้เห็นการอัศจรรย์เปลี่ยนเป็นความพิโรธโกรธกริ้ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น