เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

ประชากรของเรากำลังจะพินาศเพราะขาดความรู้และความเข้าใจในเรา


พระวจนะเป็นคำสอนของพระเยซูคริสต์

ให้กับมิท จิฟฟอร์ด

Perishing = หมายความว่า พินาศ ตายตาย,แตกดับ,สาปสูญ,ย่อยยับ,เน่าเปื่อย,เหี่ยวแห้ง

September 07, 2009

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ประชากรของเราพินาศเพราะขาดความรู้และความเข้าใจ

ประชากร ของเรากำลังจะพินาศเพราะขาดความรู้ ประชากรของเรากำลังจะพินาศเพราะขาดความรู้ของความจริง ประชากรของเรากำลังจะพินาศเพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักความจริงเกี่ยวกับความรัก ที่เราได้มีสำหรับพวกเขา ประชากรของเรากำลังจะพินาศเพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักเรา ประชากรของเรากำลังจะพินาศเพราะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับน้ำพระทัยของเรา เพราะในความปรารถนาของหัวใจของเรานั้นปรารถนาที่จะให้ทุกคนได้รับความรอดและ เข้ามาถึงความรู้ รู้จักถึงความจริงเกี่ยวกับความรักของเรา ประชากรของเรากำลังจะพินาศเพราะว่าพวกเขาได้ยุ่งเกี่ยวกับการแสวงหาและ รู้จักตัวเองมากกว่าพวกเขาจะแสวงและรู้จักความรักของพระบิดาบนสวรรค์ของพวก เขา ประชากรของเรากำลังจะพินาศ เพราะว่าได้หลงลืม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรา ไม่ได้อนุญาติให้พวกเขาได้มาเชื่อวางใจในเรา หรือเพื่อที่จะเชื่อในคำพูดต่างๆของเรา หรือเพื่อที่จะวางใจเชื่อถือในความรักที่เราได้มีเพื่อพวกเขา

โฮเชยา 4:6 ประชาชน ของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้ เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้ เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้รับเป็นปุโรหิตของเรา เพราะเจ้าหลงลืมพระราชบัญญัติแห่งพระเจ้าของเจ้า เราก็จะลืมวงศ์วานของเจ้าเสียด้วย

1 โครินทร์ 15:34 จงตื่นขึ้นสู่ความชอบธรรมและอย่าทำผิดอีกเลย เพราะว่าบางคนไม่มีความรู้เรื่องพระเจ้าเสียเลย ที่ข้าพเจ้าว่านี้ก็ให้ท่านมีความละอาย

มัทธิว 11:27 พระ บิดาของเราได้ทรงมอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา และไม่มีใครรู้จักพระบุตรนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดานอกจากพระบุตรและผู้ใดก็ตามที่พระบุตรประสงค์จะ สำแดงให้รู้

ยอห์น 17:3 และนี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา

ประชากรของเราได้กำลังพินาศเพราะ ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักว่าเราเป็นผู้สามารถที่จะเข้าไกล้เขา แต่พวกเขาแรกเริ่มนั้นต้องเข้ามาไกล้เรา เราจะไม่กดดันตัวเองในทุกกรณี ประชากรของเราได้กำลังพินาศเพราะ ว่าพวกเขาไม่รู้จักว่า ด้วยเหตุผลต่างๆและคำปรึกษาการแก้ไขจากสติปัญญาและความเข้าใจของพวกเขาเอง นั้นไม่ได้ให้พวกเขาเข้ามาไกล้เรา ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักสติปัญญาของพวกเขาเองและความเข้าใจของพวกเขาเอง นั้นได้กักขังเก็บพวกเขาไว้แบบแปลกปะหลาดและแยกเขาออกจากชีวิตที่ซึ่งเต็มไป ด้วยการอวยพรของความรักของเรา เทียบได้เท่ากับชีวิตหนึ่งที่ซึ่งเต็มไปด้วยการเป็นเพื่อนและการสนทนาและ เป็นความรักของพระบิดาบนสวรรค์ ประชากรของเราได้กำลังพินาศเพราะ ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักที่จะถามเราจากนั้นเราจะเสด็จมาทำลายความมืดของการลอก เลียนแบบของสติปัญญาของพวกเขาและความเข้าใจในความคิดฝ่ายเนื้อหนังนั้นเป็น ความว่างเปล่า ประชากรของเราไม่ได้รู้ ว่าหัวใจของเราโศกเศร้าเสียใจมากแค่ไหนเพราะพวกเขาไม่ได้เข้าไกล้เราหรือ พิสูจน์ว่าเราได้กระทำการงานของความรักของเราได้แบบอัศจรรย์(ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ที่จะสำแดงต่อเขาในความรักของเรา)

ฮิบบรู 7:18-20 ด้วยว่าจริงๆแล้วพระบัญญัติที่มีอยู่เดิมนั้น ก็ได้ยกเลิกไป เพราะขาดฤทธิ์และไร้ประโยชน์ 7:19 เพราะ ว่าพระราชบัญญัตินั้นไม่ได้ทำอะไรให้ถึงความสำเร็จ แต่ได้นำความหวังอันดีกว่าเข้ามา และโดยความหวังนั้นเราทั้งหลายจึงเข้ามาใกล้พระเจ้า 7:20 ที่ว่าดีกว่านั้นก็เพราะว่า ปุโรหิตคนนั้นได้ทรงตั้งขึ้นโดยทรงปฏิญาณไว้

ยากอบ 4:5 ท่านคิดว่าพระคัมภีร์กล่าวไว้อย่างเปล่าประโยชน์หรือที่ว่า `พระวิญญาณที่สถิตอยู่ในเราทั้งหลายมีความรู้สึกหึงหวง' 4:6 แต่พระองค์ได้ทรงประทานพระคุณเพิ่มขึ้นอีก เหตุฉะนั้นพระองค์จึงตรัสว่า `พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ทรงประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม'
4:7 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงยอมน้อมกายต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับพญามาร และมันจะหนีไปจากท่าน 4:8
จงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะสถิตอยู่ใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลายเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด และคนสองใจเอ๋ย จงชำระใจของตนให้บริสุทธิ์

สดุดี 73:28 แต่ ส่วนข้าพระองค์ ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่ดี ข้าพระองค์ได้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์

ความบาปของพวกผู้พิพากษา ผู้พยากรณ์และปุโรหิตแห่งเยรูซาเล็ม
เศฟันยาห์ 3:1 วิบัติแก่เมืองนี้ที่โสโครกและเป็นมลทิน เป็นเมืองที่บีบบังคับเขา 3:2 เธอไม่ยอมเชื่อฟังเสียง ใดๆ และไม่ยอมรับการตีสอนใดๆ เธอไม่วางใจในพระเยโฮวาห์ และเธอไม่เข้ามาใกล้พระเจ้าของเธอ 3:3 เจ้านายของเธอก็เหมือนสิงโตที่คำราม ผู้พิพากษาของเธอก็เหมือนหมาป่ายามเย็น ซึ่งไม่แทะกระดูกจนกระทั่งถึงรุ่งเช้า

พระคริสต์ทรงเป็นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า
1 โครินธ์ 1:18 คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าการประกาศเรื่องกางเขน (ทุกๆวันนั้นได้ติดตามพระเยซูคริสต์ทำตายมนุษย์เก่าฝ่ายเนื้อหนัง) เป็นเรื่องโง่ แต่พวกเราที่รอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า 1:19 เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า `เราจะทำลายสติปัญญาของคนมีปัญญา และจะทำให้ความเข้าใจของคนที่เข้าใจสูญสิ้นไป'

ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักความรักของเราไม่เคยที่จะจากหรือละทิ้งพวกเขาไป ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักว่าในความไม่เชื่อของพวกเขาในคำพูดต่างๆของเรา และความสงสัยของพวกเขาในความรักของเรา ได้นำพวกเขาไปจากคำพูดต่างๆที่เราได้สอนและทอดทิ้งความรักของเรา ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักว่าการไม่ได้ให้ความสำคัญ ลืมเรานั้นเป็นการกีดกันตัวพวกเขาจาการเห็นการกระทำการงานของเราจากความรัก ของเราที่ปรารถนาจะสำแดงเพื่อพวกเขา ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะ พวกเขาไม่ได้รู้จักที่จะเห็น ฤทธานุภาพการงานของพระบิดาบนสวรรค์ในความรักยิ่งใหญ่ที่ซึ่งปรารถนาที่จะ สนทนากับความเชื่อวางใจของพวกเขา และไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาได้กระทำด้วยตัวเอง ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักความรักอย่างกระหายที่ได้รอคอยพวกเขาที่จะทูลขอถาม เราเพื่อที่จะเอาความกลัวต่างๆออกไปทั้งหมด ความเหย่อหยิ่ง ความสงสัย ความไม่เชื่อ เทียบได้เท่ากับจิตนาการของเหตุผลต่างๆของพวกเขาและคำปรึกษาในความรู้ต่างๆต่อต้าน,คัดค้าน เป็นปฏิปักษ์เพื่อที่จะยกยอพวกเขาต้านเราประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักว่าพระคุณของความรักของเรานั้นยิ่งใหญ่ที่จะอนุ ญาติให้เราได้สำแดงพระคุณและเพื่ออวยพรเขา แม้กระทั่งในเวลาความมืดเมื่อความอ่อนแอของพวกเขาและความบาปอยู่รอบๆ กล่าวว่าเราไม่สามารถรักพวกเขาหรืออวยพรพวกเขา

1 ซามูเอล 12:20 และ ซามูเอลกล่าวแก่ประชาชนว่า "อย่ากลัวเลย ท่านทั้งหลายได้กระทำความชั่วนี้ทั้งสิ้นจริงๆแล้ว แต่ท่านทั้งหลายอย่าหันไปเสียจากการติดตามพระเยโฮวาห์ แต่จงปรนนิบัติพระเยโฮวาห์ด้วยสิ้นสุดใจของท่าน

พระวิญญาณเตือนเรื่องคนจะละทิ้งความเชื่อ
1 ทิโมธี 4:1,2 บัด นี้ พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ในกาลภายหลังจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดย หันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ 4:2 การหน้าซื่อใจคดของคนที่พูดโกหก คือทำไปทั้งรู้ๆเหมือนอย่างกับเอาเหล็กแดงนาบลงไปบนจิตสำนึกผิดชอบของเขา

ฮีบรู 3:12 ท่านพี่น้องทั้งหลาย จงระวังให้ดี เพื่อจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่านมีใจชั่วและไม่เชื่อ แล้วก็หลงไปจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ 3:13 ท่านจงเตือนสติกันและกันทุกวัน ตลอดเวลาที่เรียกว่า "วันนี้" เพื่อว่าจะไม่มีผู้ใดในพวกท่านมีใจแข็งกระด้างไปเพราะเล่ห์กลของบาป (ความไม่เชื่อความสงสัย )

อิสยาห์ 59:2 แต่ ว่าความชั่วช้าของเจ้าทั้งหลายได้กระทำให้เกิดการแยกระหว่างเจ้ากับพระเจ้า ของเจ้า และบาปของเจ้าทั้งหลายได้บังพระพักตร์ของพระองค์เสียจากเจ้า พระองค์จึงมิได้ยิน

ยอห์น 15:8 พระบิดาของเราทรงได้รับเกียรติเพราะเหตุนี้ คือเมื่อท่านทั้งหลายเกิดผลมาก ท่านจึงเป็นสาวกของเรา 15:9 พระบิดาทรงรักเราฉันใด เราก็รักท่านทั้งหลายฉันนั้น จงยึดมั่นอยู่ในความรักของเรา

2 โครินทร์ 10:3 เพราะว่า ถึงแม้เรายังดำเนินอยู่ในเนื้อหนังก็จริง แต่เราก็ไม่ได้สู้รบตามฝ่ายเนื้อหนัง 10:4 (เพราะว่าศาสตราวุธแห่งการสงครามของเราไม่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง แต่มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้าที่จะทลายป้อมอันแข็งแกร่งลงได้) 10:5 คือ ทำลายความคิด และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงเชื่อฟังพระคริสต์ 10:6 และพร้อมที่จะแก้แค้นการไม่เชื่อฟังทุกอย่าง ในเมื่อความเชื่อฟังของท่านทั้งหลายจะสำเร็จ 10:7 ท่าน แลดูสิ่งที่ปรากฏภายนอกหรือ ถ้าผู้ใดมั่นใจว่าตนเป็นคนของพระคริสต์ ก็ให้ผู้นั้นคำนึงถึงตนเองอีกว่า เมื่อเขาเป็นคนของพระคริสต์ เราก็เป็นคนของพระคริสต์เหมือนกัน

ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักว่าเราไม่เหมือนมนุษย์และไม่เหมือนในจินตนาการของ ความคิดของมนุษย์ทั้งหมดได้คิดจินตนาการเกี่ยวกับเราว่ามีลักษณะอย่างไร เราไม่เหมือนรูปเคารพ ในความคิดของมนุษย์ที่จะจินตการเกี่ยวกับเรา เรารักที่จะสำแดงพระคุณความเมตตาและยกโทษความผิดบาปในขณะที่มนุษย์ยินดีชื่น ชอบที่จะพิพากษาหรือดูถูก ดูแคลน หรือกล่าวโทษ หรือมองเห็นความผิดพลาด หรือวิพากวิจารณ์ หรือดูหมิ่น หัวเราะเยาะ หรือชี้นิ้วแนะนำ ทำแบบนี้ ทำแบบนั้น หรือ กล่าวประณาม หรือ เราไม่ใช่จินตาการของความรัก หรือการพิพากษา หรือความจริง หรือชีวิต หรือการยกโทษ หรือความดีงาม หรือความชอบธรรม หรือความสุภาพอ่อนโยนในจินตาการของมนุษย์ที่ได้ให้คำจำกัดความเราว่าเป็นแบบ ไหน เพราะในสิ่งของฝ่ายวิญญาณ นั้นไม่สามารถเข้าใจหรือหาคำจำกัดความโดยธรรมชาติในความคิดของมนุษย์ เราเป็นความรักที่ไม่จำกัด เราเป็นสิ่งที่ไม่จำกัด ไม่สามารถบรรยายได้เป็นคำพูด ไม่มีอะไรสามารถมาเปรียบเทียบได้ และสุดที่จะหยั่งรู้ได้, ไม่น่าเชื่อ, เหลือเชื่อในความรักที่แท้จริงของเรา ที่ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้แต่สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดนี้พวกเขาปรารถนาจะมีและอยากจะได้

เรา เป็นสิ่งที่ไม่จำกัดของชีวิตนิรันดร์ เราเป็นความรักชั่วนิจนิรันดร์ เราเป็นความรัก เราเป็นความรักที่เป็นความจริงและทั้งหมดจะไม่พินาศ ความถูกต้องชอบธรรมของความรักของเราไม่ได้ดูเหมือนจะถูกต้องในสายตาของคนที่ กำลังจะพินาศ ความดีงามของในความรักของเราไม่ไม่ได้ปรากฏเป็นสิ่งที่ดีในสายตาของคนตาบอด (มืดบอดฝ่ายวิญญาณ) ที่ซึ่งตาบอดจากเห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะถูกต้องสิ่งพินาศเป็นสิ่งที่ดี ความคิดของเราเป็นความถูกต้องเสมอตรงไปที่มนุษย์เพราะว่าเราเป็นความรักสม่ำ เสมอในการคิดเพื่อจะกระทำดีต่อมนุษย์ ถึงแม้ว่าเหตุผลของมนุษย์นั้นบอกว่าเราไม่ได้คิดที่จะกระทำดีต่อเขา ประชากรของเราได้กำลังจะพินาศ เพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักความคิดต่างๆของเรา เพราะความคิดของเราไม่เหมือนมนุษย์คิด ความคิดของเรานั้นไม่จำกัด สุดที่จะหยั่งรู้ได้และเข้าใจได้ และไม่สามารถบรรยายได้ให้เข้าใจเป็นคำพูดออกมาได้ต่อพวกเขาเหล่านั้นที่ไม่ได้รู้จักเรา

พระดำรัสของพระเจ้ามาจากพระองค์โดยตรง
1 โครินธ์ 2:9 ดังที่มีเขียนไว้แล้วว่า `สิ่งที่ตาไม่เห็น หูไม่ได้ยิน และไม่เคยได้เข้าไปในใจมนุษย์ คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์' 2:10 พระเจ้าได้ทรงสำแดงสิ่งเหล่านั้นแก่เราทางพระวิญญาณของพระองค์ เพราะว่าพระวิญญาณทรงหยั่งรู้ทุกสิ่ง แม้เป็นความล้ำลึกของพระเจ้า 2:11 อัน ความคิดของมนุษย์นั้นไม่มีผู้ใดหยั่งรู้ได้ เว้นแต่จิตวิญญาณของมนุษย์ผู้นั้นเองฉันใด พระดำริของพระเจ้าก็ไม่มีใครหยั่งรู้ได้ เว้นแต่พระวิญญาณของพระเจ้าฉันนั้น 2:12 บัด นี้เราทั้งหลายจึงไม่ได้รับวิญญาณของโลก แต่ได้รับพระวิญญาณซึ่งมาจากพระเจ้า เพื่อเราทั้งหลายจะได้รู้ถึงสิ่งต่างๆที่พระเจ้าได้ทรงโปรดประทานแก่เรา

สุภาษิต 2:6 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงประทานปัญญา ความรู้และความเข้าใจมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์

อิสยาห์ 55:8 เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา" พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้ 55:9 "เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด วิถีของเราสูงกว่าทางของเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น

เยเรมีย์ 29:11 พระ เยโฮวาห์ตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสันติภาพ ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ยาก เพื่อจะให้อนาคตตามที่คาดหมายไว้แก่เจ้า

โรม 1:21-25 เพราะ ถึงแม้ว่าเขาทั้งหลายได้รู้จักพระเจ้าแล้ว เขาก็มิได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า หรือหาได้ขอบพระคุณไม่ แต่เขากลับคิดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ และจิตใจโง่เขลาของเขาก็มืดมัวไป ความเข้าใจได้กลับกลายเป็นมืดไป ทางของพระเจ้าได้เสียไป 1:22 เขาอ้างตัวว่าเป็นคนมีปัญญา เขาจึงกลายเป็นคนโง่เขลาไป 1:23 และเขาได้เอาสง่าราศีของพระเจ้าผู้เป็นอมตะ มาแลกกับรูปมนุษย์ที่ต้องตายหรือรูปนก รูปสัตว์สี่เท้า และรูปสัตว์เลื้อยคลาน พระเจ้าทรงมอบมนุษย์ไว้กับความบาป การนับถือรูปเคารพ รักร่วมเพศ และความเลวทราม 1:24 เหตุฉะนั้น พระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาให้ประพฤติอุลามกตามราคะตัณหาในใจของเขา ให้เขากระทำสิ่งซึ่งน่าอัปยศทางกายต่อกัน 1:25 เขา ได้เปลี่ยนความจริงของพระเจ้าให้เป็นความเท็จ และได้นมัสการและปรนนิบัติสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้แทนพระองค์ผู้ทรง สร้าง ผู้สมจะได้รับความสรรเสริญเป็นนิตย์ เอเมน

กิจการ 17:22 ฝ่ายเปาโลจึงยืนขึ้นกลางเนินเขาอาเรโอแล้วกล่าวว่า "ท่านชาวกรุงเอเธนส์ ข้าพเจ้าเห็นว่าท่านทั้งหลายเชื่อถือโชคลางเกินไปในทุกเรื่อง 17:23 เพราะว่าเมื่อข้าพเจ้าเดินทางมาสังเกตดูสิ่งที่ท่านนมัสการนั้น ข้าพเจ้าได้พบแท่นแท่นหนึ่งมีคำจารึกไว้ว่า `แด่พระเจ้าที่ไม่รู้จัก' เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงมาประกาศ และแสดงให้ท่านทั้งหลายทราบถึงพระเจ้าที่ท่านไม่รู้จักแต่ยังนมัสการอยู่ 17:24 พระ เจ้าผู้ทรงสร้างโลกกับสิ่งทั้งปวงที่มีอยู่ในนั้น พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก มิได้ทรงสถิตในปูชนียสถานซึ่งมือมนุษย์ได้กระทำไว้ 17:25 การ ที่มือมนุษย์ปฏิบัตินมัสการพระองค์นั้นจะหมายว่า พระเจ้าต้องประสงค์สิ่งหนึ่งสิ่งใดจากเขาก็หามิได้ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานชีวิตและลมหายใจและสิ่งสารพัดแก่คนทั้งปวงต่าง หาก 17:26 พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ทุกชาติสืบสายโลหิตอันเดียวกันให้อยู่ทั่วพื้นพิภพโลก และได้ทรงกำหนดเวลาและเขตแดนให้เขาอยู่ 17:27 เพื่อเขาจะได้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า และหากเขาจะคลำหาก็จะได้พบพระองค์ ด้วยพระองค์มิทรงอยู่ห่างไกลจากเราทุกคนเลย 17:28 ด้วยว่า `เรามีชีวิตและไหวตัวและเป็นอยู่ในพระองค์' ตามที่กวีบางคนในพวกท่านได้กล่าวว่า `เราทั้งหลายเป็นเชื้อสายของพระองค์' 17:29 เหตุ ฉะนั้นเมื่อเราเป็นเชื้อสายของพระเจ้าแล้ว เราก็ไม่ควรถือว่าพระเจ้าทรงเป็นเหมือนทอง เงิน หรือหิน ซึ่งได้แกะสลักด้วยศิลปะและความคิดของมนุษย์ 17:30 ในเวลาเมื่อมนุษย์ยังโฉดเขลาอยู่พระเจ้าทรงมองข้ามไปเสีย แต่เดี๋ยวนี้พระองค์ได้ตรัสสั่งแก่มนุษย์ทั้งปวงทั่วทุกแห่งให้กลับใจใหม่

เรา เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์และเป็นความจริง และเรายังคงสัตย์ซื่อเสมอและเป็นความจริงเสมอต่อผู้ซึ่งเชื่อในคำของเรา เหมือนที่เราได้บอกเจ้าก่อนหน้านี้ เรารักมนุษย์ทุกคน และเราสามารถที่จะสำแดงความโปรดปรานและการอวยพรต่อพวกเหล่านั้นที่เชื่อใน เราและคำพูดต่างๆที่เราได้กล่าวไปเท่านั้น เราไม่สามารถสำแดงความสัตย์ซื่อและความจริงต่อคนเหล่านั้นที่กำลังจะพินาศ เพราะว่าเขาไม่ได้เชื่อในคำพูดต่างๆของเรา ความรักของเราไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลเพราะว่าธรรมชาติของเราเป้นความรักและ เราไม่ได้เปลี่ยน ความรักของเราไม่เคยล้มเหลว ประชากรของเราได้พินาศเพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักว่าไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถมา จำกัดการอัศจรรย์ต่างๆที่ซึ่งความรักของเราปรารถนาที่จะสำแดงแก่พวกเขาทั้ง หลาย ที่ซึ่งยกเว้นความเชื่อของพวกเขาเอง ความกลัวและความสงสัยต่างๆ ประชากรของเราได้กำลังพินาศเพราะเขาได้จากเราไปและละทิ้งเรา แต่ได้ไปหลงในทางอื่นๆเพราะว่าผ่านไปทางการโกหกของความไม่เชื่อ ของความกลัว ของเหตุผลต่างๆและความสงสัย เทียบได้เท่ากับคำปรึกษาที่มีเหตุผลต่างๆที่ดูเหมือนจะถูกต้อง

ประชากรของเราได้กำลังพินาศ เพราะ ว่าหัวใจของพวกเขาไม่ได้รู้จักความรักของเราไม่เคยคิดที่จะอยู่ห่างจากเขา แม้แต่ชั่วครู่หรือทอดทิ้งพวกเขา โดยฉพาะเมื่อความมืดได้มาโจมตีอย่างรุนแรงต่อ พวกเขาด้วยความสับสนของการโกหกที่ซึ่งแสวงหาที่จะมีชัยชนะเหนือความวางใจ ด้วยการสงสัย ด้วยเหตุผลต่างๆ ด้วยควาไม่วางใจ ความกลัว ความไม่เชื่อและเหตุผลที่ดูเหมือนจะถูกต้องในคำปรึกษาต่างๆ ประชากรของเราได้กำลังพินาศเพราะ ว่าเขาไม่ได้รู้จัก ว่าเรารักพวกเขาในขณะที่พวกเขาไม่ได้รักเรา ความรักของเราพบว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้เพื่อที่จะสำแดงความรักของเราเมื่อ เขากลับมาหาเรา ประชากรของเราไม่ได้รู้จักที่ซึ่งถ้าเขาสามารถไคร่ครวญและถามต่อเรา จากนั้นความรักของเราจะสามารถที่จะกระทำอย่างเหลือล้นในชีวิตที่เกินความ ต้องการมากกว่าที่พวกเขาจะคิดได้ หรือทูลขอต่อเรา

1 ยอห์น 4:9 โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าที่มีต่อเราทั้งหลายก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว(ปรากฏ อยู่ในเรา)เพราะว่าพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์ที่บังเกิดมาให้ เสด็จเข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตรนั้น 4:10 ใน ข้อนี้แหละเป็นความรัก มิใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์ให้เป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลาย เพราะบาปของเรา 4:11 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราทั้งหลายเช่นนี้ เราก็ควรจะรักซึ่งกันและกันด้วย

1 ความคิดเห็น:

  1. Thank you very much for all information you provided. I got a knowledge and educated in the way of good christian. All will be kept in my memory to remind me every day.
    Thank you for your kindness.
    And thanks God for his direction.
    ;-)
    Cheers
    EK

    ตอบลบ