เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

วิญญาณของผู้พยากรณ์ที่เป็นของสวรรค์พูดความจริง


1998 04 03.1 โดย โทมัส เอส กิฟสัน

เพราะ ว่าสาเหตุนี้เราพระเจ้าตรัสว่า มีวิญญาณที่ไม่สัตย์ซื่อ วิญญาณไม่เป็นความจริง วิญญาณที่หลอกลวงอยู่ในโบสถ์ต่างๆ เพราะว่าวิญญาณเหล่านั้นไม่ได้มาจากเรา(พระเยซูคริสต์) , แต่วิญญาณต่างๆที่เป็นของสวรรค์พูดความจริง(ไม่โกหก) , แต่ว่าวิญญาณต่างๆที่มาจากนรกโกหกแน่ๆ

วิญญาณต่างๆที่มาจากนรก พวกปีศาจ ค้นหาวิธีที่จะหลอกลวงโบสถ์ต่างๆ พวกปีศาจนั้นได้ส่งคำ พยากรณ์ต่างๆที่บอกว่าเจ้าสามารถที่จะรักเงินโลก สิ่งของในโลกและความหยิ่งยโส ความรักเงินทองและความชั่วร้ายต่างๆของโลกใบนี้ พวกปีศาจได้ส่งคำพูดเหล่านี้มาหลอกลวงแม้แต่คนของเรา(คนที่เราได้เลือกสรร)

บัดนี้จงฟังเสียงและได้ยินเสียงของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้ มี เวลาที่ซึ๋งเจ้าไม่ถูกหลอกลวงในสิ่งเหล่านั้นเป็นอันขาด นี้คือเวลานั้น มีเวลาที่เจ้าจะไม่ถูกหลอกลวงในสิ่งเหล่านั้นเป็นอันขาด นี้เป็นเวลานั้น

เจ้าไม่สามารถที่จะดำเนินชีวิตอยู่และเชื่อว่าคำพูดที่ไม่สัตย์ซื่อ คำพูดที่ไม่เป็นความจริง คำพูดที่หลอกลวง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในคำพูดต่างๆเหล่านั้น ซึ่งออกมาจากบางคนที่เรียกว่า ผู้พยากรณ์ต่างๆที่พระเจ้าทรงเรียก

บางคนเราได้เรียกมาก็จริงอยู่แต่ว่าได้หันกลับไปอยู่ในความชั่วร้าย เพราะว่าพวกเขาความรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาต้องการคำพูดเมื่อเราไม่ได้พูดสักหนึ่งคำ พวกเขาต้องการเป็นที่จะโดดเด่นต่อบุคคลอื่น และเพื่อให้คนอื่นยกย่องสรรเสริญตัวเอง และเป็นที่น่าสนใจต่อบุคคลอื่น และเกือบจะกราบไหว้นมัสการผู้พยากรณ์ต่อหน้าของเรา และเราจะไม่ทำ(ส่งเสริม)สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น

และยังคงมีโบสถ์ต่างๆที่กระทำสิ่งเหล่านี้ พวก เขายังคงปรบมือสรรเสริญคนเหล่านั้น และได้ก้มหัวลงแก่คนเหล่านั้น และบอกว่าใช่ พวกเรามีผู้พยากรณ์อยู่ท่ามกลาง และตราบเท่าที่ผู้พยากรณ์ได้กล่าวในสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งถูกต้อง พวกเขาได้ร่วมแสดงความชื่นชมยินดีกับผู้พยากรณ์ แต่เราไม่ได้กล่าวคำพยากรณ์ไปในทางเหล่านั้น(รักโลกหรือสิ่งของในโลก) พระเจ้าตรัสดังนี้ เพราะว่าประชากรของเรา คนของเราและผู้พยากรณ์ของเราจะพูดคำของเรา(แบบที่เราต้องการให้พูด) นี้เป็นเวลาความพิโรธและการพิพากษาจะตกอยู่กับคนเหล่านั้น และเป็นเวลาของความรอดอย่างแท้จริงและเวลาแห่งพระศิริของเราบนโลก

สำหรับคนเหล่าโน้นที่ได้ออกนอกลู่นอกทางไปทำบาปของในโลกนี้ พวกเขาเหล่าโน้นที่ได้ไปทำบาปกับกิเลสของเนื้อหนัง พวกเขาผู้ซึ่งเลิกสนใจทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะแสวงหาเรา พระเจ้าตรัสดังนี้ พวกเขาจะมีเวลาที่จะได้สง่าราศรีของเรา ถึงแม้ว่าโลกนี้ยังไม่ได้ไม่ส่วนกับสิ่งเหล่านั้น ถึงแม้ว่ามีผู้พยากรณ์เท็จต่างๆในคำพยากรณ์และถึงแม้ว่าจะมีความชั่ว ร้ายอยู่รอบๆพวกเขา ถึงแม้ว่าจะมีการข่มเหงถึงแก่ความตายท่ามกล่างพวกเขา แต่เรายังคงยกพวกเขาขึ้น ยืนอยู่สูงท่ามกลางสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจะดำเนินชีวิตอยู่ในทางของเรา ในน้ำพระทัยของพระเจ้า ทำในสิ่งที่เราต้องการ และ ซาตานพยายามที่จะขัดขวาง พวกปีศาจไม่สามารถจะหยุดพวกเขาได้ เพราะว่าเขาเป็นคนของเรา ได้รับฤทธานุภาพจากพระวิญญาณบริสุทธิ์จากเรา และเกินกว่าสิ่งใดของการวัดความยิ่งใหญ่จะสามารถเปรียบเทียบได้ในเวลานี้ พวกเขาจะทำ

เจ้า อยู่ในเวลาที่ไกล้จะเป็นเวลาพิโรธของเราจะลงมาที่ชนทุกเชื้อชาติในโลก เจ้าเข้าไกล้มามากแล้ว และแต่ยังคงเมื่อเวลามาถึงหลายคนจะบอกว่า โอ โอ จำต้องเกิดขึ้น แต่ค่อนข้างที่เจ้าจะพูดว่า"ใช่แล้วปล่อยให้เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น ปล่อยให้คำพิพากษาของพระเจ้ามา ขอให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเถิด เพราะเป็นเวลาที่เจ้าจะเห็นหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ

ขณะ ที่การข่มเหง เพิ่มขึ้นในตัวของมันเองต่อต้านคนของเรา เราจะเพิ่มพลังฤทธานุภาพให้เจ้าจะเห็นคนเป็นขึ้นมาจากความตาย เจ้าจะเห็นคนตายแล้วฟื้นต่อหน้าต่อตาเจ้า เมื่อเจ้าได้เดินอยู่กับเรา

นี้ เป็นเวลาที่กำลังจะมาถึง และมันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง สำหรับการทดสอบของโลกนี้ และเราได้ทดสอบหลายๆคนบนโลก และพวกเขาได้ถูกทดลองโดยซาตาน เป็นเครื่องมือของซาตานเพื่อการกระทำความชั่วร้ายและเพิ่มความชั่วร้าย แม้แต่โบสถ์ของเราก็ถูกทดสอบโดยซาตาน เราได้ให้พวกเขาเหล่านั้นไปอยู่ในการทดลองของซาตาน เพราะว่าพวกเขาได้แสวงหาสิ่งของต่างๆที่อยู่บนโลกนี้ พวกเขาได้ค้นหาสิ่งต่างๆของบนโลกใบนี้เพื่อจะมาเป็นคำตอบ พวกเขาไม่ได้มองหาเราเพื่อที่จะเป็นคำตอบในสิ่งต่างๆ และ ยังคงมีพวกเขาเหล่าโน้นที่เหลืออยู่ให้เห็นในทั้วๆไปที่เจ้าจะพบ ในสถานที่นั้นนิด ตรงโน้นหน่อย ที่นั้นนิดหนึ่ง และบางครั้งก้มีผู้คนมากมาย ที่ซึ่งพวกเขาได้แสวงหาเราเหนือสิ่งอื่นใด

พวก เขาเหล่านี้ ไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้ แต่พวกเขาสนใจที่จะทำตามน้ำพระทัยของลูกแกะ(พระเยซูคริสต์)และสำหรับพวกเขา เราให้พลังอำนาจ ฤทธานุภาพอยู่เหนือพวกเขา เมื่อ โลกใบนี้ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆและทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาคน บนโลกได้คิดหรือวางอนาคตกันไว้ และพวกเขาคนบนโลกได้มีความทุกข์ยากลำบาก แต่คนของเราเหล่านั้นที่ติดตามเราด้วยสิ้นสุดใจ สิ้นสุดกำลังความคิดนั้นในเวลานั้น พวกเขาจะได้รับการอวยพรจากเรา และจะประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรื่อง เพราะว่าเราจะเลี้ยงดูพวกเขาในสิ่งที่จำเป็นทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก้ตาม อัศจรรย์ต่างๆพวกเขาจะได้รับ เราจะทำการอัศจรรย์ เพราะว่าหัวใจของพวกเขาได้ตรงมาที่เราทั้งหมด ดังนั้นหัวใจของเราก็ตรงไปที่พวกเขาเช่นกัน

แต่ สำหรับพวกเขาเหล่าโน้นที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความชั่วร้ายและอยู่ในความผิดบาป (ที่ซึ่งเราได้สั่งสอน ว่าความบาปต่างๆที่ได้พูดคำของเรา )พวกเขาเหล่านั้นจะถูกลงโทษในความพิโรธของเรา เราจะพิพากษาพวกเขายกเว้นเขาจะกลับใจแท้จริง ถึงแม้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของโบสถ์ของเรา เพราะพวกเขาได้เดินออกไปจากคำของเราที่ให้ไว้(ไม่ได้ดำเนินชีวิตอยู่ในคำของ เราอย่างแท้จริง) และพวกเขาได้บอกว่า พระเจ้า พระเจ้า แต่เราจะบอกว่า เราไม่รู้จักเจ้า เพราะพวกเขาเหล่านั้นได้ แสวงหาสิ่งของในโลกซึ่งเป็นรากฐานของความชั่วร้ายต่างๆ

พวกเขาได้แสวงหาหลายรูปแบบลักษณะ และเราตรัสว่า เจ้าทำไม่ได้อีกต่อไป เพราะเราจะทำบริสุทธ์โบสถ์ของเรา และพวกเขาเหล่าโน้นได้มาอยู่ภายใต้เความพิโรธของเรา อยู่ภายใต้ความพิโรธของเรา และพวกเขาเหล่านั้นที่มาอยู่ภายใต้การอวยพรต่างๆ ยังคงมาอยู่ภายใต้การอวยพรต่างๆของเรา

เจ้า ต้องเลือกว่าเจ้าจะเจ้าจะเลือกเอาอะไร เพราะว่าไม่มีสิ่งที่แตกต่างระหว่างโลกนี้กับพวกเขาเหล่านั้นในโบสถ์ของเรา ผู้ซึ่งเรียกว่า พระเจ้า พระเจ้า และปฏิเสธ ที่จะรับใช้เรา และพวกเขาทั้งหมดเป็นคนบาป ทำผิดบาปเป็นแฟชั่น แต่ พวกเขาเหล่าโน้นที่ซึ่งออกนามเรา พระเจ้า พระเจ้า และได้ก้มกราบมนัสการเราและถ่อมใจของพวกเขาต่อหน้าเรา และเชื่อฟังคำของเราและแสวงหาน้ำพระทัยของเราผู้ทรงเป็นพระเจ้า และได้เชื่อฟังเราเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่สนใจว่าใครจะคิดแบบไหน ไม่สนใจว่าโลกนี้รอบๆเป็นอย่างไร ไม่สนใจว่าอย่างอื่นแต่จะรักษา ดำเนินชีวิตอยู่ในความจริงของน้ำพระทัยของพระเจ้า พวกเขาเหล่านั้นเราจะยกขึ้นด้วยฤทธิอำนาจที่ซึ่งจะไม่ถูกนับรวมกับคนในโลก นี้ จะไม่มีอะไรมีเปรียบเทียบได้

พวก เขาจะจะเข้มแข็ง แข็งแกร่งในทุกด้าน เจ้าจะยังคงจะไม่เข้าใจในเวลานี้แต้เจ้าจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นและกลายเป็น อดีต จากนั้นเจ้าจะเข้าใจทุกสิ่ง และมีคำพยากรณ์บางส่วนได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว และฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ได้จะเกิดขึ้นแบบไม่เคยเห็นมาก่อน จำคำพูดนี้ไว้ นี้คือการตักเตือนให้กลับใจ นี้เป็นการว่ากล่าวตักเตือนให้แสวงหาอย่างระมัดระวัง ใช้ เวลาอธิษฐานถ่อมใจกับพระเจ้า ว่าเจ้าได้ยืนอยู่ในจุดถูกต้องหรือไม่ หรือเจ้าได้ถูกผลักตกลงไปในสิ่งที่เป็นกิเลสตัณหา สิ่งที่ยั่วยวนของฝ่ายโลกลงไปในความบาป และเจ้าเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ให้เจ้าจงระมัดระวังอะไรที่เจ้าเรียกว่าน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นใช่หรือ เปล่า

แสวงหา :เจ้าได้แสวงหาสิ่งของที่อยู่บนโลกนี้หรือเปล่า เจ้าได้ยังคงแสวงหาการอวยพรที่เป็นสิ่งของในโลกอยู่หรือเปล่า หรือเจ้าได้แสวงหาและพบกับสิ่งที่จำเป็นที่เราจัดเตรียมให้เจ้าหรือไม่ อยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์เจ้าหรือเปล่า เจ้าได้แสวงหาสิ่งที่เป็นของพระเจ้าก่อนสิ่งอื่นใดๆหรือเปล่า สิ่งใดที่เป็นที่สิ่งพิเศษที่สุดในชีวิตของเจ้า เจ้าได้ติดยึดอยู่กับบ้านใหม่ หรือรถใหม่หรือเปล่า หรือสิ่งใหม่ๆอย่างอื่นๆ เดี่ยวซื้อสิ่งนี้ใหม่ สิ่งนั้นใหม่ เพื่อที่จะมีสิ่งใหม่อยู่เรื่อยๆ นั้นคือเป้าหมายของเจ้าหรือเปล่า หรือเจ้าแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าและออกไปทำธรุกิจของพ่อของเจ้าบนโลก หรือไม่ ?




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น