เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทที่ 9 ความน่ากลัวของนรก

ดิฉันเข้าใจว่าทำไมผู้คนในห้องขังเดี่ยวเหล่านี้ในท้องของนรกจึงแตกต่างจากผู้คนในที่อื่น ๆ ในการทรมาน มีหลายสิ่งที่ดิฉันไม่เข้าใจ ดิฉันเพียงแต่ฟังพระเยซูและทำการบันทึกทุกสิ่งที่ดิฉันได้ยินและได้เห็นเพื่อสง่าราศีของพระเจ้า
ไกลเท่าที่ดิฉันจะสามารถเห็นได้ ห้องขังเดี่ยวนั้นดูเหมือนว่าจะอยู่ในวงกลางอันไม่มีที่สิ้นสุด มีหัวใจโดดเดี่ยวอยู่ในแต่ละห้องขังเดี่ยว เสียงร้องครวญคราง เสียงสะอื้นไห้ เสียงถอนใจและเสียงครวญคราง ได้ดังออกมาจากห้องขังเดี่ยวในขณะที่เราเดินผ่านห้องขังเดี่ยวเหล่านั้น
เราไม่ได้เดินไปไกล เมื่อพระเยซูคริสต์หยุดอยู่ทางด้านหน้าของห้องขังเดี่ยวอีกห้องหนึ่ง ขณะที่เรามองเข้าไปภายใน มีแสงสว่างส่องออกมา (พระเยซูคริสต์ทำให้มีแสงสว่าง) ดิฉันยืนอยู่และมองไปที่วิญญาณดวงหนึ่งที่ดิฉันรู้ว่ากำลังอยู่ในการทรมานอย่างหนัก เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเธอมีสีผิวเทาปนน้ำเงิน เนื้อหนังของเธอตายแล้ว และส่วนของเนื้อที่ได้เน่าไปแล้วได้ห้อยลงมาจากกระดูก กระดูกของเธอทั้งหมดถูกเผาไหม้จนเป็นสีดำสนิท และเธอมีเสื้อผ้าขาดวิ่นเป็นชิ้นๆ ตัวหนอนกำลังคลานออกมาจากเนื้อหนังและกระดูกของเธอ กลิ่นสกปรกอบอวลทั่วทั้งห้องขังเดี่ยว
เช่นเดียวกับผู้หญิงก่อนหน้านี้ เธอนั่งอยู่ในเก้าอี้โยกเหมือนกัน เธอกำลังถือตุ๊กตาที่ขาดรุ่งริ่ง และดังที่เธอถูกขังไว้ เธอร้องไห้และถือตุ๊กตาที่ขาดรุ่งริ่งไว้แนบอกของเธอ เสียงสะอื้นอย่างใหญ่หลวงทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะเทือน และเสียงร้องสะอื้นไห้ดังออกมาจากห้องขังเดี่ยว
พระเยซูคริสต์บอกดิฉัน ว่า“เธอเป็นคนรับใช้ของซาตานด้วยเหมือนกัน เธอได้ขายวิญญาณของเธอให้แก่มัน และในขณะที่เธอมีชีวิตอยู่ เธอปฎิบัติการอันชั่วร้ายในทุกประการ เวทมนต์คาถาเป็นจริง” พระเยซูคริสต์ตรัส “หญิงคนนี้ได้สอนและได้ปฏิบัติเวทมนต์คาถาและหันผู้คนมากมายไปสู่วิถีแห่งความผิดบาป เขาเหล่านั้นผู้เป็นครูแห่งเวทมนต์คาถาได้รับความสนใจพิเศษได้รับอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าส่วนหนึ่งจากซาตาน ยิ่งกว่าเขาเหล่านั้นผู้เพียงแต่ปฎิบัติเวทมนต์คาถาเท่านั้น เธอเป็นผู้เสี่ยงทาย เป็นผู้ทำนายและเป็นร่างทรงสำหรับเจ้านายของเธอ
เธอได้รับความพึงพอใจมากยิ่งขึ้นกับซาตานสำหรับการอันชั่วร้ายทั้งปวงที่เธอได้ทำ เธอรู้ถึงวิธีการใช้อำนาจแห่งความมืดเพื่อเธอเองและเพื่อซาตาน เธอได้เข้าสู่การรับใช้ นมัสการและสรรเสริญซาตาน เธฮได้เป็นผู้หญิงที่มีอำนาจเพื่อเขา”
ดิฉันสงสัยว่ามีวิญญาณมากเพียงไรที่เธอได้หลอกลวงเพื่อซาตาน ดิฉันได้มองไปที่เปลือกที่เป็นกระดูกของวิญญาณดวงหนึ่ง ที่กำลังร้องไห้อยู่เหนือตุ๊กตาที่ขาดรุ่งริ่ง ซึ่งเป็นเพียงชิ้นของผ้าสกปรกชิ้นหนึ่งเท่านั้น ความเศร้าใจเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจของดิฉัน และน้ำตาปริ่มอยู่ในดวงตาของดิฉัน เธอถือตุ๊กตาที่ขาดรุ่งริ่งเบาๆราวกับว่ามันสามารถที่จะช่วยเธอได้ หรือบางทีเธออาจจะช่วยมัน กลิ่นแห่งความตายอบอวลเต็มอยู่ในสถานที่แห่งนี้
ครั้นแล้ว ดิฉันมองเห็นเธอเริ่มต้นทำการเปลี่ยนแปลงเหมือนผู้หญิงอื่น ครั้งแรกธอเป็นผู้หญิงชราในปี 1930 และแล้วต่อมาก็เป็นหญิงสาวในปัจจุบัน กาลเวลาผ่านไปเธอทำการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดนี้ต่อหน้าต่อตาเรา
“หญิงคนนี้” พระเยซูคริสต์ตรัส “เป็นผู้หญิงที่พอ ๆ กันกับนักเทศน์ เพื่อซาตาน ดังที่เหมือนกันกับพระคัมภีร์ที่แท้จริงถูกเทศน์ให้เราโดยบาทหลวงที่แท้จริงนั่นแหละ ดังนั้น ซาตานจึงมีบาทหลวงจอมปลอมของเขา เธอมีอำนาจชนิดที่แข็งแรงที่สุดของซาตาน ซึ่งโดยอำนาจนี้ เธอจึงเป็นที่ต้องการให้มาขายวิญญาณของเธอ เพื่อให้ยอมรับของขวัญที่ชั่วร้ายของซาตานนั้นเป็นเหมือนด้านตรงกันข้ามกับเหรียญที่มีต่อของขวัญทางจิตวิญญาณที่พระเยซูคริสต์ได้มอบให้แก่ผู้มีความเชื่อ นี่เป็นอำนาจแห่งความมืด
“คนงานของซาตานเหล่านี้ทำงานอยู่ในสถานที่ ที่ซ่อนเร้น สถานที่เวทมนต์คาถาทำหน้าที่ดูลายมือ และในวิธีการอื่น ๆ อีกมากมาย สื่อกลางของซาตานก็คือ คนทำงานที่มีอำนาจของซาตานคนหนึ่ง ปัจเจกชนเหล่านี้ถูกหลอกลวงอย่างสิ้นเชิง และถูกขายให้ซาตานอย่างเต็มตัว คนงานแห่งความมืดบางคนไม่สามารถแม้แต่จะพูดกับซาตาน เว้นแต่ว่าคนทรงของพวกเขาพูดเพื่อพวกเขา พวกเขาทำให้มนุษย์และสัตว์สังเวยต่อซาตาน”
ผู้คนมากมายมอบวิญญาณของตนต่อซาตาน พวกเขาเลือกที่จะรับใช้เขาแทนที่จะเลือกรับใช้เรา การเลือกของพวกเขาเป็นความตายเว้นแต่ว่าพวกเขาจะสำนึกในความผิดของพวกเขาและเรียกหาเรา เราเป็นความสัตย์จริง และเราจะช่วยให้พวกเขารอดจากความผิดบาปของพวกเขา ผู้คนมากมายยังขายวิญญาณของพวกเขาต่อซาตานด้วยการคิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตชั่วนิรันดร์ แต่ว่าพวกเขาจะตายในความตายที่น่าสะพรึงกลัว
ซาตานยังคงคิดว่ามันจะสามารถโค่นล้มพระเจ้าและทำลายแผนการของพระเจ้าได้ แต่ว่ามันถูกพิชิตที่ไม้กางเขน เราได้เอากุญแจมาจากซาตาน และเรามีอำนาจทั้งหมดในสวรรค์และในโลก
ภายหลังที่หญิงคนนี้ตาย เธอตรงดิ่งมาที่นรกเลย ปีศาจได้นำเธอมาต่อหน้าซาตาน ซึ่งเธอได้ถามในอาการโกรธแค้นว่าทำไมปีศาจจึงบังคับเธอ เพราะว่าเมื่ออยู่บนโลกเธอคิดว่าเธอบังคับพวกปีศาจ ณ ที่นั่นพวกปีศาจได้ทำตามคำสั่งของเธอ เธอยังถามซาตานถึงอาณาจักรที่มันได้ให้สัญญาแก่เธอด้วย
ซาตานยังคงทำการโกหกเธอแม้ภายหลังการตายของเธอในโลกนี้แล้ว มันพูดว่ามันจะทำให้เธอฟื้น คืนชีวิตขึ้นมาและใช้เธอเพื่อจุดประสงค์ของเขาอีก โดยการหลอกลวง เธอได้รับวิญญาณจากเขาหลายดวง ดังนั้น การโกหกของเขาจึงดูเหมือนมีเหตุผลสำหรับเธอ
แต่ว่าในที่สุดแล้ว ซาตานได้หัวเราะและเหยียดหยามเธอ มันบอกเธอว่า “ข้าหลอกลวงเจ้าและใช้เจ้าในปีเหล่านั้นทั้งหมด ข้าจะไม่ให้อาณาจักรของข้าแก่เจ้าหรอก”
ปีศาจโบกมือของเขาไปที่ผู้หญิง และดูเหมือนกับว่าเนื้อหนังของเธอกำลังถูกเชือดออกมาจากกระดูกของเธอ เธอกรีดร้องในความเจ็บปวดในขณะที่หนังสือสีดำเล่มใหญ่ถูกนำมาให้ซาตาน มันเปิดหนังสือและชี้นิ้วของมันลงไปในหน้าหนังสือจนกระทั่งได้พบชื่อของเธอ
“โอ ใช่แล้ว” ซาตานพูด “เจ้าได้รับใช้ ข้าด้วยดีบนโลก เจ้าได้นำเอาดวงวิญญาณมาให้ข้ามากกว่า 500 ดวง” มันได้โกหกและพูดกับเธอ “การถูกลงโทษของเจ้าจะมิได้เลวไปกว่า คนอื่น ๆ หรอกนะ”
เสียงหัวเราะคิกคักของซาตานดังออกมา ซาตานยืนขึ้นและชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงคนนั้น และลมขนาดใหญ่พัดมาและทำให้สถานที่นั้นเต็มไปด้วยลม เสียงเหมือนกับฟ้าร้องที่คำรามลั่นดังมาจากเขา
“ฮา ฮา ” ซาตานพูด “จงเอาอาณาจักรของเจ้าถ้าเจ้ามีความสามารถ” ครั้นแล้วกำลังที่มองไม่เห็นได้ฟาดให้เธอล้มคมำลงที่พื้น
“เจ้ากำลังมารับใช้ข้า ณ ที่นี้ด้วยแหละ” ซาตานหัวเราะในขณะที่เธอพยายามที่จะลุกขึ้น ผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องในความเจ็บปวดในขณะที่เนื้อหนังของเธอยังคงถูกเชือดมาจากกระดูกของเธอโดยพวกปีศาจ เธอถูกผลักกลับเข้าไปในตรางนี้ เธอจำได้ถึงคำสัญญาของซาตาน มันบอกเธอว่าเธอจะมีอำนาจทั้งมวล มันบอกเธอว่าเธอจะไม่ตาย มันบอกเธอว่ามันมีอำนาจเหนือชีวิตและเหนือความตาย และเธอได้เชื่อมัน เธอได้รับการบอกเล่าว่าซาตานสามารถหยุดสิ่งใดก็ได้ที่จะมาฆ่าเธอ ซาตานได้โกหกเธอมากมายและได้สัญญาแก่เธอไว้หลายสิ่ง
พระเยซูคริสต์ตรัส “เรามาเพื่อที่จะช่วยผู้ชายทั้งปวง เราปรารถนาว่าทั้งหมดของผู้สูญเสียจะสำนึกในความผิดและเรียกหาชื่อของเรา มันมิใช่เป็นเจตนาของเราที่ว่าใครคนใดจะถูกทำลายชีวิตแต่จะมีชีวิตอมตะ เป็นความเศร้าที่จะกล่าว ส่วนใหญ่แล้วจะไม่สำนึกในความผิดบาปของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะตาย และพวกเขาจะไปสู่นรก แต่ว่าหนทางที่จะไปสู่สวรรค์นั้นก็เป็นเช่นเดียวกันสำหรับผู้คนทั้งปวง เจ้าจะต้องเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะได้เข้าอาณาจักรของพระเจ้า เจ้าจะต้องมาหาพระบิดาในนามของเราและสำนึกในความผิดบาปของเจ้า เจ้าจะต้องมอบหัวใจของเจ้าต่อพระเจ้าด้วยความจริงใจ และรับใช้พระองค์”
“เด็กเอ๋ย” พระเยซูคริสต์ตรัสต่อไป “สิ่งต่อไปที่เราจะเปิดเผยต่อเจ้าก็คือสิ่งที่น่าหวาดกลัวมากกว่านี้เสียอีก เรารู้ว่ามันจะทำให้เจ้าเศร้าระทม แต่เราต้องการที่จะให้โลกได้ฟังและได้รู้ว่าวิญญาณกำลังพูดว่าอะไรต่อโบสถ์อีกด้วย”
ในห้องขังเดี่ยวเหล่านี้ ไกลเท่าที่เจ้าจะเห็นได้ เป็นดวงวิญญาณที่ถูกทรมาน ทุกครั้งที่ห้องขังเดี่ยวเต็ม นรกก็ขยายตัวมันเองเพื่อที่จะรับเอาวิญญาณที่มากยิ่งขึ้นไปอีก เจ้ามีความรู้สึกทั้งปวงในนรก และถ้าหากว่าเจ้าเป็นคนตาบอดบนโลก เจ้าก็จะตาบอดในนรก ถ้าหากเจ้ามีเพียงแขนเดียวบนโลก เจ้าก็จะมีเพียงแขนเดียวในนรก”
ดิฉันจะต้องบอกให้ท่านสำนึก เพราะว่านรกเป็นสถานที่ ที่น่ากลัว เป็นสถานที่ ที่ทำให้หวาดกลัว เป็นสถานที่แห่งความมืดที่น่ากลัวและมีเสียงร้องแห่งความโศกเศร้าชั่วนิรันดร์ ได้โปรดเถิด ดิฉันขอวิงวอนท่านให้เชื่อที่ดิฉันพูด เพราะว่ามันเป็นความจริง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยากลำบากสำหรับดิฉันเสียจริงๆ เพราะว่าดิฉันไม่สบายหลายครั้งในระหว่างที่เตรียมการเกี่ยวกับการที่จะเขียนบันทึกนี้
ดิฉันได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ในนรกที่น่าหวาดกลัวเกินกว่าที่จะเล่า ถึงกับน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเสียงพิร่ำรำพันเกี่ยวกับการทรมาน กลิ่นของเนื้อหนังที่กำลังเน่าเปื่อย และความน่ากลัวของไฟนรกพร้อมกับกับดักที่ลึกของมัน ดิฉันยังได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าไม่อนุญาติให้ดิฉันเขียนอีกด้วย
เมื่อท่านตายบนโลกนี้ ถ้าหากว่าท่านเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยจิตวิญญาณของพระเจ้า วิญญาณของท่านจะไปขึ้นสวรรค์ ถ้าหากว่าท่านเป็นคนบาปเมื่อท่านตาย ท่านก็จะไปสู่นรกที่กำลังลุกไหม้ในทันที พวกปีศาจพร้อมด้วยสายโซ่เส้นใหญ่จะลากวิญญาณของท่านให้ผ่านเข้าไปทางประตูเข้าของนรก ซึ่ง ณ ที่นั่น ท่านจะถูกเหวี่ยงเข้าไปในกับดักและถูกทรมาน ในเวลานั้น ท่านจะถูกนำไปต่อหน้าซาตาน ท่านรู้และรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นแก่ท่านในนรก
พระเยซูคริสต์บอกดิฉันว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งในนรกเรียกว่า “ศูนย์สนุก” วิญญาณที่ถูกขังอยู่ในกับดักไม่สามารถถูกนำมาที่นี่ได้ พระองค์ยังบอกดิฉันว่าถึงแม้ว่าการทรมานจะแตกต่างกันสำหรับวิญญาณที่แตกต่างกันก็ตาม แต่ทั้งหมดก็ถูกเผาไหม้อยู่ในกองไฟ
ศูนย์สนุกถูกออกแบบให้เหมือนกับเวทีประลองฝีมือในคณะละครสัตว์ ผู้คนหลากหลายที่ถูกกำหนดมาให้ความเพลิดเพลินจะถูกนำมาที่อัฒจรรย์ละครสัตว์ของศูนย์สนุก คนเหล่านี้เป็นผู้รับใช้ซาตานอย่างช่ำชองบนโลก พวกเขาเหล่านี้เป็นผู้เลือกที่จะติดตามซาตานแทนที่จะเลือกติดตามพระเจ้า ด้วยเจตนาที่อิสระของพวกเขาเอง รอบด้านของคณะละครสัตว์เป็นวิญญาณอื่น ๆ ทั้งนี้ยกเว้นวิญญาณที่มาจากกับดัก
พวกที่อยู่ในศูนย์กลางอัฒจรรย์เป็นพวกผู้นำในโลกที่ซ่อนเร้นก่อนความตายของพวกเขา พวกเขาเป็นคนทรง เป็นผู้เสี่ยงทาย เป็นหมอผี เป็นผู้ทายใจ เป็นพ่อมดและเป็น WARLOCKS พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้ทำการเลือกที่จะรับใช้ซาตานอย่างมีความสำนึกในตัวเองทั้งสิ้น
เมื่อพวกเขามีชีวิตอยู่บนโลก พวกเขาหลอกลวงผู้คนมากมายและเป็นต้นเหตุทำให้คนเหล่านั้นติดตามซาตานและทำความผิดบาป พวกที่ถูกหลอกลวงและทำให้ตกเข้าไปในความผิดบาปได้มาและทรมานคนที่หลอกลวงพวกเขา พวกเขาถูกทำให้ติดตามไปสู่การทรมานทีละคนทีละคน
ในการทรมานเช่นนั้นอย่างหนึ่ง กระดูกที่มีจิตวิญญาณถูกนำมาให้ห่างไปและถูกฝังในเขตที่แตกต่างกันของนรก วิญญาณนั้นถูกฉีกให้แยกจากกัน และชิ้นส่วนของมันกระจัดกระจายไปทั่วนรกอันเป็นการไล่ล่าของพวกเก็บกวาดปีศาจร้ายชนิดหนึ่ง พวกวิญญาณหลายฝ่ายจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง ส่วนพวกที่อยู่นอกเวทีประลองฝีมือสามารถที่จะขว้างก้อนหินใส่ผู้ที่กำลังอยู่ในสังเวียนประลองฝีมือ วิธีการแห่งการทรมานทุกอย่างเท่าที่พอจะนึกขึ้นมาได้ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ วิญญาณที่กำลังถูกทรมานร้องหาความตาย แต่ว่านั่นเป็นความตายที่เป็นอมตะ ซาตานออกคำสั่งให้สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดกระทำให้เสร็จ นั่นคือศูนย์กลางแห่งความสนุกของเขา
พระเยซูคริสต์ตรัส “เราได้เอากุญแจของนรกมาจากซาตานหลายปีมาแล้ว เราได้มาและเปิดห้องขังเดี่ยวเหล่านี้ และปล่อยให้ผู้คนของเราออกไป เพราะว่าในยุคสมัยแห่งพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเก่าก่อนที่เราจะมอบชีวิตของเราบนไม้กางเขนตามความเป็นจริง สวรรค์นั้นตั้งอยู่ใกล้กับนรก ห้องขังเดี่ยวเหล่านี้ครั้งหนึ่งอยู่ในสวรรค์ บัดนี้ซาตานใช้ห้องขังเดี่ยวเหล่านี้เพื่อจุดประสงค์อันชั่วร้ายของเขาและได้ทำให้มีมากขึ้นไปอีก”
โอ ท่านผู้อ่าน ท่านจงสำนึกในความผิดบาปของท่านก่อนที่มันจะสายเกินไปชั่วกับป์ชั่วกัลป์ เพราะว่าทั้งหมดจะมาก่อนดิฉันในการพิพากษา สวรรค์ถูกเลื่อนที่ตั้งของมันมาใกล้นรกเมื่อดิฉันตายและมีขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระบิดาของเรา
อีกครั้งหนึ่ง ที่ดิฉันจะบอกท่านว่าห้องขังเดี่ยวเหล่านี้ ซึ่งมีความสูงสิบเจ็ดไมล์ ถูกใช้เป็นที่คุมขังสำหรับเขาเหล่านั้นผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนงานแห่งความมืดของซาตาน พวกเขาเหล่านั้นมีส่วนพัวพันกับความผิดบาปชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งต้องจัดการกับอำนาจของซาตาน ของผีสางเทวดาและของการบูชาซาตาน

พระเยซูคริสต์ตรัส “มาเถิด เราต้องการที่จะให้เจ้าได้เห็นบางสิ่งบางอย่าง” ในทันใดนั้น เราขึ้นไปอยู่ในที่สูงประมาณครึ่งไมล์ในอากาศ อยู่ในศูนย์กลางของท้องของนรก และในศูนย์กลางของห้องขังเดี่ยวที่มีความสูงสิบเจ็ดไมล์ มันรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในบ่อซึ่งไม่มีทั้งปากบ่อและก้นบ่อที่จะสามารถมองเห็นได้เพราะความมืด แสงสว่างสีเหลืองเริ่มต้นส่องสถานที่ ดิฉันกำมือพระเยซูคริสต์ไว้แน่น
“พระเจ้าที่รัก” ดิฉันถาม “ทำไมเราจึงมาอยู่ ณ ที่นี่”
ในทันใดนั่นเอง มีลมพายุเฮอริเคนและมีเสียงอึกทึกครึกโครม เปลวไฟขนาดใหญ่เริ่มต้นลุกขึ้นมาทางด้านของกำแพงของห้องขังเดี่ยว เผาไหม้ทุกสิ่งที่อยู่ในเส้นทาง เปลวไฟลามไปถึงด้านในของห้องขังเดี่ยวแต่ละห้องและทำให้เกิดเสียงร้องที่น่าสงสารแห่งความเจ็บปวดและความ เศร้าโศรก แม้กระนั้นพระเยซูคริสต์และดิฉันก็มิได้ถูกเปลวไฟไหม้ น้ำตาไหลทะลักอยู่ภายในของดิฉันในขณะที่ดิฉันมองเห็นวิญญาณทั้งหลายของผู้สูญเสียกำลังวิ่งไปยังด้านหลังของห้องขังเดี่ยว เล็ก ๆ ที่กำลังพยายามที่จะหาสถานที่ซ่อน

เสียงผีร้ายตนหนึ่งเริ่มดังขึ้นมาจากทางด้านซ้ายของเรา ดิฉันมองไป และซาตานกำลังยืนอยู่พร้อมกับหันหลังให้เรา และเขามีไฟไหม้ทั้งตัว แต่ว่าเขามิได้ถูกเผา แทนที่จะถูกเผาไหม้ เขากลับเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดไฟ คราวนี้เขายืนหายไปในเปลวไฟ และกำลังสนุกสนานกับเสียงร้องของวิญญาณที่น่าสงสารและสูญเสียในขณะที่ซาตานโบกแขนของเขา ก็มีลูกไฟขนาดใหญ่ยิงมาจากเขา
เสียงกรีดร้องที่บีบคั้นหัวใจและเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดอย่างใหญ่หลวงดังมาจากห้องขังเดี่ยว วิญญาณที่อยู่ในภายในถูกเผาทั้งเป็นโดยความร้อนนี้ที่ร้อนยิ่งกว่าทะเลสาบแห่งไฟ แม้กระนั้น ก็ตามพวกเขาก็ไม่ตาย พวกปีศาจเข้าร่วมในการหัวเราะด้วยเหมือนกัน ในขณะที่ซาตานเดินจากห้องขังเดี่ยวหนึ่งไปยังอีกห้องขังเดี่ยวหนึ่ง เพื่อทรมานผู้สูญเสีย
พระเยซูคริสต์ตรัส “ซาตานกินปีศาจเป็นอาหาร เขาลิงโลดในความเจ็บปวดและในความ ทุกข์ทรมานได้รับอำนาจจากมัน (จากปีศาจ)”
ดิฉันมองดูซาตานในขณะที่เปลวไฟสีเหลืองอมแดงโดยมีขอบสีน้ำตาลลุกรอบตัวของเขา ลมที่พัดจัดและพัดกระพือได้ทำให้เสื้อผ้าของเขาปลิว ซึ่งเสื้อผ้าของเขามิได้ถูกไฟไหม้ กลิ่นของเนื้อที่ไหม้ไฟเต็มอยู่ในอากาศ และดิฉันได้ตระหนักอีกครั้งหนึ่งว่าความน่าหวาดกลัวของนรกนั้นเป็นจริง ซาตานเดินผ่านเข้าไปในเปลวไฟ และเปลวไฟนั้นก็มิได้ไหม้เขา แม้ว่าดิฉันจะมองเห็นด้านหลังของเขา แต่ดิฉันก็สามารถได้ยินเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายในทุกแห่งหน
ดิฉันมองดูในขณะที่ซาตานลอยขึ้นสูงในเมฆแห่งควันไฟ โดยการนำเอากระแสแห่งไฟขึ้นไปกับเขา ไปยังด้านบนของท้องนรก ดิฉันฟังในขณะที่เขาหันกลับมาและประกาศด้วยเสียงอันดังว่า เว้นแต่ว่าพวกวิญญาณเหล่านี้ทั้งหมดจะกราบไหว้เขา เขาจะมอบวงจรแห่งความสนุกสนานแก่วิญญาณเหล่านั้นอีก
“ไม่น่ะ ได้โปรดเถิดซาตาน เราจะกราบไหว้ท่าน ” พวกวิญญาณร้องตะโกนออกพร้อมกันในขณะที่พวกเขาทั้งหมดเริ่มต้นก้มศรีษะในท่ากราบไหว้ต่อซาตาน และยิ่งพวกเขา กราบไหว้ซาตานมากเพียงไร ความอยากของเขาในการที่จะได้รับการกราบไหว้ก็ยิ่งมีมากขึ้น เสียงสรรเสริญดังยิ่งขึ้นและดังยิ่งขึ้น จนกระทั่งจันทันของนรกส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
พระเยซูคริสต์ตรัส “หากเขาเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ห้องขังเดี่ยวของนรกเพราะเขาเคยได้ยินพระคัมภีร์ที่แท้จริงในขณะที่พวกเขามีชีวิตอยู่บนโลก หลายต่อหลายครั้งที่การช่วยชีวิตของเราได้เสนอแก่พวกเขา หลายครั้งที่จิตวิญญาณของเราได้โน้มน้าวพวกเขา แต่ว่าพวกเขามิได้ฟังหรือมาหาเราเพื่อที่จะได้รับความรอด”
ในขณะที่พระเยซูกำลังตรัสอยู่ ซาตานก็กำลังพูดกับประชาชนของเขา “ฮา ฮา ฮานี่คืออาณาจักรของเจ้า อาณาจักรทั้งหมดเท่าที่เจ้าเคยมีมา อาณาจักรของเรา ครอบคลุมไปทั่วทั้งโลกและโลกที่อยู่เบื้องล่าง” ดิฉันได้ยินเขาตะโกน “นี่คือชีวิตของเจ้าสำหรับการดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์” ในขณะที่เสียงร้องแห่งความเสียใจได้ดังมาจากห้องขังเดี่ยวที่กำลังถูกไฟไหม้
พระเยซูคริสต์ตรัส “ การช่วยให้รอดของเราเป็นการให้เปล่าๆ ใครก็ตามที่มีความปรารถนา (ที่จะได้รับการช่วยให้รอด) ขอให้เขามาและได้รับการช่วยให้รอดจากสถานที่แห่งนี้ ที่เป็นสถานที่แห่งการลงโทษอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เราจะไม่ไล่เขาออกไป ถ้าเจ้าเคยเป็นแม่มดหรือเป็น WARLOCK แม้กระทั่งเจ้าได้เขียนข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรกับปีศาจ อำนาจของเราก็จะทำลายมันเสีย และเลือดที่ได้หลั่งไหลของเรา จะช่วยให้เจ้ารอด เราจะนำเอาคำสาปแช่งของปีศาจไปจากชีวิตของเจ้าและกู้เจ้ากลับคืนมาจากนรก จงมอบหัวใจของเจ้าแก่เราเพื่อว่าเราอาจจะปลดปล่อยโซ่ตรวนจากเจ้าและทำให้เจ้ามีอิสระ ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น