เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คนที่เล็กน้อยที่สุดในโลกนี้จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์


นี้คือคำพูดที่พวกเขาเหล่าโน้นจะเชื่อในการทรงฤทธานุภาพสูงสุดของพระเจ้าผู้ทรงสร้างสิ่งสารพัด มี คนพวกเขาเหล่าโน้นที่คิดว่าพวกเขาเป็นคนฝ่ายวิญญาณ แต่พวกเขาไม่ได้เป็น ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะบอกว่าพวกเขาสำเร็จแล้วในระดับที่พวกเขาคิดว่าพวกเขา ได้จบหรือมีประสบการณ์มาจากที่ไหนก้ตาม เพราะเราเป็นพระเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า เขาอยู่เหนือคนอื่นๆ

อ่านพระ คำของเรา เราบอกว่าคนที่เล็กน้อยที่สุดในโลกนี้กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์ ถ่อมใจของเจ้า ให้รู้จักทางของพระเจ้าจากคำของเราในข้อพระคำภีร์ต่างๆ เรียนรู้ ไคร่ครวญพระคำ เรียนรู้ จดจำ เรียนรู้จักว่าเราเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์ และต้องการที่จะให้ทุกคนถ่อมใจที่จะเดินด้วยกันกับเรา ค้นหา แสวงหาที่จะรู้จักเรา แสวงหาที่จะเชื่อฟังเรา

นี้เป็นทฤษฏีในการที่จะรับใช้เรา ที่เจ้าจะได้รับความยิ่งใหญ่ในการอวยพรจากเรา พระเจ้าของสิ่งสารพัดตรัสดังนี้ ด้วยความถ่อมใจของเจ้าสามารถที่จะและจะมีชัยชนะ จากพลังแห่งความมืดต่างๆเหล่านั้น นี้ เป็นความแข็งแกร่งจากการถ่อมใจแท้จริงที่เจ้าจะได้เป็นกำไรที่ยิ่งใหญ่ใน อาณาจักรสวรรค์ของเรา ด้วยความถ่อมใจแท้จริงนี้ เจ้าจะเห็นการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ในคำพูดของเราและในการประกาศข่าวประเสริฐ บนโลกใบนี้

เรียน รู้สิ่งเหล่านี้ เรียนรู้ให้ละเอียดถี่ถ้วน ความหยิ่งจะทำให้เจ้าล้มลง นี้เป็นสิ่งที่คริสเตียนหลายๆคน ที่ได้ออกชื่อเรียกนามของเราได้ล้มลงและล้มเหลวอย่างมากที่สุด เรียนรู้จักว่า ทางของพระเจ้านั้นไม่เหมือนกับความคิดที่คนกำลังคิดกันในโลก แต่มากไปกว่านั้นได้ต้อต้านกันในทุกรูปแบบ เจ้าไม่สามารถยืนอยู่ได้ในความหยิ่งที่ค่อยๆเล็ดลอดเข้ามาทีละนิด ทีละนิดเข้ามาในอยู่ระบบต่างๆของโลกใบนี้ที่เจ้าได้อาศัยอยู่ (ซึ่งมารซาตานวางระบบ ในทุกระบบของโลก เป็นกับดักเป็นเจ้าโลกครอบงำด้วยความมืดอยู่ )

เจ้าไม่สามารถเข้าใจปัญหาต่างๆของโลกนี้และถ้าเจ้าไม่อดอาหาร ไม่อธิษฐาน และไม่ได้แสวงหาเราในทุกๆวันตลอดเวลา นี้คือสิ่งที่เจ้าได้ขาดแคลนอยู่ในชีวิตของเจ้า แสวงหาพระเจ้านั้นไม่ได้อยู่ที่นั้น เพราะว่าถ้าเจ้าได้ขาดแคลนในการแสวงหาและดังนั้นเจ้าจะไม่สังเกต,มองเห็น,มองออก,เข้าใจ,สัมผัสรู้ได้ ว่าทางของพระเจ้าแท้จริงเป็นอย่างไร เพราะว่าก้อนเมฆ สิ่งที่ปกคลุมอยู่ในความคิดของเจ้าโดยความหยิ่งของระบบต่างๆ(ตัวอย่างเช่น การทำมาหากิน,การดำเนินชีวิต,ความรู้ในโลก)ในโลกนี้ได้ปกคลุมเป็นความมืดอยู่ในความคิดของเจ้า

ผู้มีชัยชนะ บทความจาก หนังสือ สู่สงสรามสุดท้าย (อ่านแล้วนำตาคลอเบ้าเลย)

ริค จอยเนอร์

วันหนึ่งผมได้เข้าไปที่ สวนสาธารณะ แบ ทเทิลฟิลด์ ไกล้ที่พัก และตั้งใจแน่วแน่ว่า จะคอยจนกว่าพระเยซูคริสต์เจ้าจะตรัสกับผม และขณะที่ผมได้อ่านพระคำภีร์อยู่นั้น นิมิตแห่งหนึ่งได้เกิดขึ้น เป็นหนึ่งในนิมิตที่ผมเคยได้รับมาก่อนหน้านี้

ในนิมิต ผมได้เห็นผมได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า เขา เป็นพยานกับผู้คนอย่างไม่หยุดหยั้ง ทั้งสอนพระคำภีร์ และเยี่ยมเยียนผู้ป่วย และอธิษฐานเผื่อ เขาร้อนรนในพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง และมีความรักที่แท้จริงต่อคนอื่นๆ

จาก นั้นผมได้เห็นคนจรจัดข้างถนน มีลูกแมวตัวเล็กๆเดินผ่านหน้าเขา และเขาก็เริมเตะมัน แต่เขายับยั้งเท้าไว้ด้วย จนในที่สุด ก็เสือกไสมัน ค่อนข้างหนักจนมีนพ้นทางเขาแล้วองค์ พระผู้เป็นเจ้าถามกระผมว่า คนใดในสองคนนั้นเป็นคนที่เราโปรดปราน

คนแรก ผมตอบ อย่างไม่รีรอ ผิด คนที่สอง พระองค์ ตอบ

และเริ่มเล่าเรื่อง นี้ให้ผมฟัง

ชายคนแรก ได้ รับการเลี้ยงดู จากคนในครอบครัวที่อบอุ่น และเขารู้จักพระเจ้ามาโดยตลอด เขาเติบโตขึ้นในคริสจักรที่เต็มไปด้วยชีวิต ได้รับการศึกษาจากโรงเรียน พระคริสต์ ธรรมที่ยอดเยี่ยม และได้รับความรักจากเราอย่างเต็มขนาดหนึ่งร้อยส่วน แต่เขาใช้เพียงเจ็ดสิบห้าส่วนเท่านั้น

ส่วนชายคนที่สอง นั้นหูหนวก แต่กำเนิด เขาถูก ทำทารุณและกักขัง ไว้ในห้องมืด ใต้หลังคา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐ มาค้นพบเขาเมื่อ เขาอายุได้ แปดขวบ จาก นั้นเขาถูกส่งตัวจากสถานเลี้ยงเด็ก แห่งหนึ่งไปอีกแห่งหนึ่ง โดยถูกทารุณกรรมไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเขาได้มาใช้ชีวิต บนท้องถนน องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานความรักให้เขาแค่สามส่วน สำหรับช่วยเขาให้พ้นจากสภาพ เช่นนั้น

และเขาได้เอาความรักทั้งสามส่วนเค้นออกมาใช้ทั้งหมดเพื่อจะฝืนความเดือดกาล ในจิตใจที่อยากจะทำร้ายลุกแมวตัวเล็กๆ ผม มองดูผู้ชายคนที่สองนี้ ผู้เป็นราชาอยู่เหนือบัลลังก์ อันทรงเกียรติ ยิ่งกว่าจินตนาการของกษัตริย์ ซาโลมอนจะไปถึงได้ มีกองทัพโยธาทูตสวรรค์ เรียงรายเป็นทิวแถวล้อมรอบเขา เพื่อรอปฎิบัติตามคำสั่ง ผมหันกลับไปดู องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความพิศวง ยังคงไม่อยากเชื่อว่าเขามีตัวตนจริงๆ และเป็นหนึ่งในบรรดาพระราชา

จากนั้นผมได้อ้อนวอนให้ พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าบอกเรื่องราวที่เหลือ

แน่ นอน นี้เป็นเหตุให้เราอยู่ที่นี้ แองแจลโล สัตย์ซื่อเหลือเกิน ต่อสิ่งเล็กน้อยที่เรามอบให้ แก่เขา เราจึงให้ความรักของเราเพิ่มขึ้นเป็นสามส่วน และเขาต้องใช้ทั้งหมดเพื่อหักห้ามตัวเองจากการขโมย เขาแทบจะอดตาย แต่เขาปฏิเสธสิ่งของที่ไม่ใช่ของเขา เขาซื้ออาหารจากรายได้ จากรายได้ที่เขาเก็บขวด และงานว่าจ้างเล็กๆ น้อยๆ เมื่อใครเรียกเขาไปตัดหญ้า ตามบ้าน เขาไม่สามารถได้ยิน แต่ก็อ่านหนังสือได้

เราจึงส่งใบปลิวเรื่องราวข่าวประเสริฐ ของเราให้เขาใบหนึ่ง พระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้เปิดใจเขา และเขาได้มอบถวายชีวิตให้กับเรา เราจึงเพิ่มพูนความรัก ให้เขาอีกสองเท่า ซึ่งเขาก็ใช้ความรักนั้นอย่างสัตย์ซื่อ เขาปราถนาที่จะบอกเรื่องของเรากับคนอื่น แต่เขาพูดไม่ได้ แม้เขาจะยืนอยู่ด้วยความแร้นแค้น แต่เขาก็ได้แบ่งรายได้ จากทุกทางมากกว่าครึ่ง เพื่อซื้อใบปลิว สำหรับแจกตามมุมถนน

เขานำคนมาเชื่อมากเท่าไร ผมถาม ( ผมคาดเดาว่า น่าจะเป็นจำนวนมหาศาล เพราะเขานั่งอยู่ บนบัลก์ลังก์ของพระราชา )

หนึ่งคน องค์พระผู้เป็นเจ้า ตอบผม เราอนุญาติให้เขานำคนหนึ่งกำลังจะตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง มาถึงความรอดเพื่อหนุนใจเขา และเป็นสิ่งที่หนุนใจเขามากจริงๆ เขาได้ยืนหยัดอยู่ในมุมถนนอีกหลายปี เพื่อแจกใบปลิวและนำคนกลับใจจากบาป

แต่ทั่วสวรรค์ ได้วิงวอน เราที่จะนำเขามาที่นี้ และเราก็เช่นกัน เราต้องการให้เขาได้บำเหน็จของเขา

แต่สิ่งใดที่ทำให้เขาเป็นพระราชาแห่งนี้ ผมถาม เขาสัตย์ซื่อในทุกสิ่งที่เขาได้รับ เขาเอาชนะทุกสิ่งกระทั่งเขาเป็นเหมือนเรา และเขาตายพลีชีพเพื่อ พระคริสต์

เขาเอาชนะอย่างไร และเขาตายโดยพลีชีพ เพื่อพระคริสต์ อย่างไร ?

เขาเอาชนะโลกนี้ ด้วยความรักของเรา มีคนเพียงน้อยนิดที่ได้ชัยชนะ อันยิ่งใหญ่ด้วยสองมือที่เขาขัดสน คนของเราเป็นอันมากที่ได้อาศัยอยู่ในบ้าน ที่เมื่อพระราชา ศตวรรษที่แล้วก็อาจอิจฉาในความสะดวกสบาย โดยไม่เคยซาบซึ้งกับสิ่งเหล่านี้ ในขณะที่แองจิโล ได้ซาบซึ้งกับกล่องกระดาษ

ที่เขาซุกหัวนอนในคืนที่เหน็บหนาว และทำให้สถานที่นั้นเป็นนิเวศน์ อันทรงสง่าราศรี แห่งการทรงสถิตของเรา เขาเริ่มที่จะรักทุกคนและทุกสิ่ง เขาชื่นชมในแอปเปิลผลหนึ่งยิ่งกว่า ที่คนของเราบางคนมีต่องานเลี้ยงฉลอง เขาสัตย์ซื่อต่อทุกอย่างที่เรามีให้เขา แม้มันจะเล้กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น รวม ทั้งเจ้าด้วย เราสำแดงเขาให้เจ้าเห็นนิมิต เพราะเจ้า ได้ผ่านเขาไปหลายครั้ง และครั้งหนึ่งเจ้าก็ชี้เขา ให้เพื่อนคนหนึ่งของเจ้า และกล่าวดูถูกเขา

ผมทั้งอย่างนั้นหรือ ผมพูดอะไรบ้าง ? เจ้า พูดว่า นี่คือท่านเอลียาห์อีก คนหนึ่ง ที่หนีมาประจำที่อู่รถ ประจำทาง และเจ้าพูดว่าเขาเป็น พวกเคร่งศาสนา ที่ไม่มีสมอง พวกที่ศัตรู ได้ส่งมาเพื่อหันออกจากพระกิตติคุณ นี้เป็นหมัดหนักที่สุดที่ซัดผม ตั้งแต่ที่ผ่านมา ผมตกใจสุดขีด รู้สึกใจหายวาบไปหมด ผมพยายาม จะนึกเหตุการณ์นั้นให้ออก แต่ก็ไม่ได้ เพราะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ผม ไม่ค่อยมีใจเมตตา ต่อนักเทศน์ข้างถนนสกปรกเท่าไรนัก เพราะผมคิดว่าคล้ายกับส่งมาจากฝ่ายศัตรู เพื่อทำให้ ผู้คนเบือนหน้าหนีจากพระคุณ

ผมกล่าวขอโทษ ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ผมเสียใจจริงๆ และเจ้าได้รับการอภัย พระองค์ รีบตอบอย่างทันที ก็ถูกอย่างที่เจ้าคิดมีคนที่เทศนากลางถนนอย่างบิดเบือน หรอื ด้วยเหตุผลที่ผิด แต่ก็มีคนอีกจำนานมากที่ทำแบบนั้นอย่างจริงใจ

แม้เขาจะ ไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และด้อยการศึกษา เจ้าต้องไม่ตัดสินคนแต่ภายนอก เพราะเรามีผู้รับใช้แท้อีกเป็นจำนวนมาก ที่ดูเหมือนเขา เช่นดียวกับที่มนุษย์ ได้ สร้างขึ้นมาในนามเรา และพระองค์ ได้พยักหน้า ให้ผมมองดู แองเจลโอ เขาได้ลงบัลลังก์ อันสูงส่งนั้น และเดินเข้ามาหาผม เขาอ้าแขนกอดผม อย่างอบอุ่น และจูบหน้าฝากราวกับผมเป็นลูก ความ รักไหลล้น จนรู้สึกท่วมระบบประสาท เมื่อเขาเปล่ามือผม ผมยังรู้สึกเหมือนในอาการเมา เป็นความรู้สึกอัศจรรย์ เป็นความรักซึ่งไม่เคยได้สัมผัส เขาส่งทอดความรักนี้ให้กับเจ้าแก่คนบนโลก องค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าว

เขามีอย่างมากมายที่จะให้คนของเรา แต่คนนั้นไม่มาไกล้เขา แม้แต่ผู้เผยพระวจนะของเราก็หลบหลีกเขา แองเจลโล เติบโตขึ้นในความเชื่อ โดย เขาซื้อพระคำภีร์ มาเล่มหนึ่งและหนังสืออีกสอง สามเล่ม และอ่านแล้วอ่านอีก เขาพยายามไปโบสถ์ แต่ไม่มีคนต้อนรับเขา หากคริสตจักรเหล่านั้น ตอนรับเขา ก็ เท่ากับว่าตอนรับเราด้วย เขาเป็นเสียงเคาะประตูของเรา

ผมกำลังเรียนนิยาม ใหม่ของความเจ็บปวด เขาตายอย่างไร ผมถาม จำได้ว่าเขาพลีชีพเพื่อพระคริสต์ และแอบทำใจไว้ก่อนด้วยเหตุผลบางประการ ผมอาจต้องมี ส่วน รับผิดชอบด้วย เขาหนาวตายเพราะพยายามจะช่วยชีวิต ชายชราขี้เหล่าคนหนึ่ง ที่หมดสติไปในความหนาวเหน็บ เมื่อพบมองดูแองเจลโล ผมแทบไม่เชื่อเลย ว่าตัวเอง จะมีจิตใจเย็นได้เช่นนี้ แต่กระนั้นผมก็ไม่เข้าใจว่า เขาพลีชีพเพื่อพระคริสต์ ได้อย่างไร

ผมคิดว่านี้เป็นคำซึ่งผู้ยืนหยัดในคำพยานอย่างไม่นอมแม้ ต้องเสียชีวิต องค์ พระผู้เป็นเจ้า ผมรู้ว่าเขาได้รับชัยชนะแท้จริง ผมกล่าว และมีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้อยู่ที่นี้ แล้วคนอื่นที่เสียชีวิต เช่นเดียวกับเขา จะจัดว่าเขาพลีชีพเพื่อ พระคริสต์ ด้วยหรือ เปล่า

แองเจลโล พลีชีพ เพื่อพระคริสต์ ทุกวัน เขาจะทำเพื่อตัวเองเท่าที่จะอยู่รอดได้ และสละชีวิตด้วยความยินดี เพื่อช่วยเพื่อนผู้ขัดสน ของเขา เช่นเดียวกับเปาโล ได้เขียนจดหมายไปถึงเมือง โครินทร์ ว่า แม้ท่านจะสละสิ่งสารพัดแล้ว และยอมให้เอาตัวไปเผาไฟ แต่ไม่มีความรัก ก็ ไม่มีประโยชน์

ในทางตรงข้าม เมื่อเจ้ามีชีวิตด้วยความรัก นั่นมีค่ามหาศาล แองเจลโลตายทุกวัน เพราะเขาไม่เคยอยู่เพื่อตนเองเลย แต่อยู่เพื่อผู้อื่น

ขณะอยู่บนโลก เขาถือว่าตัวเองเป็นผู้เล็กน้อย ในบรรดาธรรมมิกชน ซึ่งที่แท้จริงเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ตามที่เจ้าเรียนรู้มาแล้ว บรรดาผู้ซึ่งนับตัวเองเข้ากับผู้ยิ่งใหญ่ และได้รับการยกย่องจากผู้อื่นว่ายิ่งใหญ่ ก็จบลงด้วยการเป็นผู้เล็กน้อยของที่นี้ แองเจลโล ไม่ได้พลีชีพเพื่อหลักข้อเชื่อ หรือ แม้แต่คำพยานของเรา แต่เขาตายเพื่อเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าขอช่วยข้าพระองค์ จดจำสิ่งเหล่านี้ ได้ โปรดอย่าให้ผมลืม สิ่งที่ผมได้เห็นนี้ เมื่อผมกลับไปยังโลก ผมอธิษฐานวิงวอน นี่เป็นเหตุให้เราอยู่ที่นี้กับเจ้า และจะอยู่กับเจ้าเมื่อเจ้ากลับไปด้วย ...

สติปัญญาคือ การมองดูด้วยตาของเรา และที่จะไม่ได้ตัดสินจากภายนอก เราให้ได้เจ้าเห็นแอลเจลโล ในนิมิต เพื่อเจ้าจะไม่ผ่านเขาเมื่ออยู่ตามท้องถนน ซึ่งหากเจ้าแบ่งปันสิ่งที่เจ้ารู้ เกี่ยวกับอดีตของเขา กับตัวเขาเองแล้ว เขา จะได้ต้อนรับเราในวันนั้น และเจ้าก็คงจะได้บำรุงเลี้ยงราชาผู้ยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งคงจะเกิดผลอย่างใหญ่ยิ่งต่อคริสตจักรของเรา หากคนของเรา จะมองดูผู้อื่นจากที่เรามองแล้ว

แอ งเจลโลหรือคนอื่นๆที่คล้ายคลึงกับเขา ก็คงจะได้รับการยอมรับ และพวกเขา ก็ยกขบวนกันขึ้นสู่ธรรมมาสน์ ยิ่งใหญ่ ตามที่ต่างๆ คนของเรา ก็จะมาจากสุดปลายแผ่นดินโลก เพื่อที่จะนั่งแทบเท้าของเรา พวกเขาจะสอนเจ้า ให้รักและว่าจะทุ่มเทของประทาน ซึ่งได้ทรงมอบหมายให้ อย่างไรเพื่อที่จะเกิดผลมากมาย

ผมรู้สึกละอาย จนไม่กล้าสบพระพักตร์ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ในที่สุดผมกลับไปหาองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะผมรู้สึกว่า ความเจ็บปวดนี้ ได้ผลักให้ผมยึดตนเองเป็นศูนย์กลางอีก เมื่อ ผมมองดูพระองค์ นัยน์ตาของผมแสบพร่าไปด้วยพระสิริ จนกระทั่งสักครู่ใหญ่ สายตาของผมจึงเริ่มปรับตัว และมองดูพระองค์ได้อีกครั้งหนึ่ง

จำไว้ให้ดีว่า เจ้าได้รับการอภัยแล้ว พระองค์ตรัส เราไม่ได้สำแดงสิ่งเหล่านี้เพื่อกล่าวโทษเจ้า แต่เพื่อจะสอนเจ้า จำไว้เสมอว่า ความรักเมตตาจะสลัดผ้าคลุมหน้า ออกจากจิตวิญญาณ ของเจ้าได้เร็วกว่าสิ่งใดทั้งหมด เมื่อเราเริ่มเดินต่อไปอีก แองเจลโลได้กล่าวว่า เป็นครั้งแรกว่า

โปรดระลึกถึงเพื่อนๆของข้าพเจ้าคือพวกคนจรจัดด้วย หลายคนจะรักพระผู้ช่วยให้รอด ของเราอย่างยิ่ง หากใครบางคนจะไปหาพวกเขา ถ้อยคำของเขาช่างเต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ จนผมไม่อาจตอบได้ ผมเพียงแต่ผงก ศรีษะด้วยความเข้าใจเป็นอย่างดีว่า นั่นคือประกาศิตของพระราชา ผู้ยิ่งใหญ่ และสหายคนสำคัญของจอมกษัตริย์ องค์พระผู้เป็นเจ้า

เราไม่ได้เปรมปรีด์กับการมองดูมนุษย์ ทนทุกข์ สติปัญญา ยังคงตรัสต่อไป แต่ ความเมตตาของมนุษย์ ไม่ได้นำมนุษย์ สู่กางเขน อันเป็นที่เดียวซึ่งสามารถบรรเทาความทุกข์ใจที่แท้จริงของเขา เจ้าพลาด แองเจลโล เนื่องจากเจ้าไม่ได้ดำเนินชีวิตด้วยความเมตตาสงสาร เจ้าจะมีมากขึ้นเมื่อเจ้ากลับไป ความ เมตตาของเจ้ายังคงอยู่ภายใต้ พระวิญญาณของเรา และเราจะรักษาทุกคนซึ่งเราได้เมตตาสงสาร แต่เราทำในสิ่งซึ่งเราได้เห็น พระบิดาทรงกระทำนั้น อย่าทำสิ่งใดตามความเมตตาสงสารของเจ้า เท่านั้น แต่จงทำด้วยความเชื่อฟังต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะโดยการนี้เท่านั้นความเมตตาของเจ้าจึงประกอบด้วยฤทธิ์ อำนาจของการทรงไถ่

เราได้ไว้ใจเจ้าด้วยการมอบหมายของพระทาน ฝ่ายวิญญาณต่างๆ ให้เจ้าได้รู้จักการเจิมของเรา ในการเทศนา และการเขียนของเจ้า แต่เจ้ายังรู้น้อยกว่าที่เจ้าคิดว่าเจ้ารู้อยู่มาก น้อยครั้งที่เจ้าได้เห็นด้วยตาของเรา หรือ ได้ยินด้วยหูของเราอย่างแท้จริง หรือได้เข้าใจด้วยหัวใจของเราอย่างแท้จริง โดยปราศจากเราแล้ว เจ้าก็ไม่อาจทำสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ต่ออาณาจักรของเรา หรือเพื่อสนับสนุนพระกิตติคุณของเราได้เลย

เจ้า ได้ทำศึกสงครามของเรา ได้เห็นยอดเขาอภิสุทธิ์ ฐาน ได้เรียนรู้ยิงลูกศรแห่งความจริง เข้าใส่ศัตรู เจ้าเรียนที่จะใช้ พระแสงดาบของเราบ้าง แต่ความรักคือ ยุทโธปกรณ์ สูงสุดของเรา ความรักไม่มีวันสูญสิ้น ความรักจะเป็นอำนาจทำลายล้างการงานความชั่ว และความรักจะนำอาณาจักรของเรามาตั้งอยู่ ความรักเป็นธงชัยที่โบกสะบัด อยู่เหนือกองทัพของเรา และใต้ร่มธงนี้ เจ้าจงทำศึกสงคราม เรา เดินเลี้ยวเข้าสู่เฉลียงยาวพ้นจากห้องโถงใหญแห่งการพิพากษา พระสิริแห่งสติปัญญาทรงล้อมรอบผม นี้คือประตูแห่งสติปัญญา ได้นำผมมาและผมต้องผ่านเข้าไป

(ติดตาม อ่าน จบเล่ม สู่สงครามสุดท้าย ริค จอย เนอร์ จาก สำนักพิมพ์ แม่น้ำ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น