เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

คมดาบความจริงแห่ง พระวจนะ และ การโกหก ล่อลวงจากงูใหญ่ (ซาตาน)


คมดาบความจริงแห่ง พระวจนะ และ การโกหก ล่อลวงจากงูใหญ่ (ซาตาน)

นิมิตและการเปิดเผยนี้คือ ข้าพเจ้าได้เห็น ตัวข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางห้องประชุมใหญ่ในโบสถ์แห่งหนึ่ง กำแพงและผนังปูด้วย เครื่องประดับจิวเวลลี่ ที่มีสีสันที่สวยงาม หน้าต่างทำด้วยกระจกแก้วที่มีสีสัน (ลักษณะคล้ายโบสถ์ใหญ่เก่าแก่ในยุโรป ) ในห้องประชุมนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่มาประชุม มีคนจน มีคนรวย มีคนป่วย มีคนพิการ มีคนใบ้ มีคนตาบอด และทุกคนมีโซ่ล่ามอยู่ที่ขา และที่ข้อมือมีกุญแจมือล็อคอยู่ และไม่มีใครเลยที่ไม่ถูกผูกมัด (นี้เป็นสภาพของโบสถ์ ในปัจจุบัน ซึ่งพวกเขาเป็นสมาชิกในโบสถ์ แต่ไม่มีใครเป็นอิสระ)

ด้านหน้าเวทีของห้องประชุม มีบริเวณกว้างใหญ่ และมีโต๊ะเทศนาด้านหนึ่ง และอีกด้านหนึ่งมีกรงขังใหญ่อยู่ด้านข้าง ข้างในมีงูเขียวตัวใหญ่มากๆ อยู่ในกรงนั้น แขวนอยู่ข้างหน้าของผู้ที่ยืนเทศนา และมีเส้นลวดสองเส้นแขวนดาบใหญ่ ในแนวนอน และในด้านหน้าของห้องประชุม มีนักเทศนา หลายคน ประมาณ แปด ถึงสิบคน สวมเสื้อคลุมแบบพิเศษสำหรับเทศนา และนั่งอยู่ถัดต่อจากกัน และมีที่นั่งหนึ่งสูงกว่าอีกที่นั่งหนึ่ง และ ผู้คนในห้องประชุมก็มองดูนักเทศน์เหล่านี้ และพวกเขาก็มองดูคนที่อยู่ในห้องประชุม และที่ห้องประชุมก็เงียบสงบสักพัก จนกระทั่งได้ยินเสียงก้องกังวาล จากที่แท่นเทศนาและดูเหมือนเสียงจะตรงออกมา จากพระเจ้า และตรัสว่า ใครจะเป็นผู้ประกาศความจริงทั้งหมดนี้ และที่จะเป็นที่ปรึกษาของพระเจ้าอย่างแท้จริง (ที่จะปลดปล่อยคน ให้เป็นไท ไม่ตกเป็นทาสของบาป ผีมารซาตาน )

และนักเทศนาคนแรกก็ออกมาด้วยการถือไบเบิ้ล อยู่ในมือ เมื่อเขาเริ่มเทศน์ งูเขียวใหญ่ที่มีอายุมากนั้นก็เริ่มม้วนขดรัดตัว และฉก แยกเขี้ยวจะกัด นักเทศนา ด้วยสายตาที่โกรธแค้น คนที่เทศนาพระคำของพระเจ้าก็เลยเทศนาผิดเพี้ยนไปจากวัตถุประสงค์ของพระเจ้า เขาเลยเรียกคนอื่นๆ มาแทน พร้อมกลับมานั่งที่เดิมและเอาไบเบิ้ลมาวางไว้ที่ใต้เก้าอี้ และงูเขียวยักษ์ ก็ม้วนตัวไปจับดาบ ชูหัวขึ้น และบอกต่อผู้เทศนาว่า ถ้าผู้ใดเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า เราจะฆ่าด้วยดาบนี้ และหลังจากนั้น เสียงก็เงียบลงสักพัก เสียงจากแท่นเทศนา ตะโกนบอกว่า ใครจะเป็นผู้ประกาศความจริงทั้งหมดนี้ และที่จะเป็นที่ปรึกษาของพระเจ้าอย่าง แท้จริง

และหลังจากนั้น นักเทศนาคนที่สอง ก็ออกมายืนข้างหน้า และงูเขียวยักษ์ใหญ่ ก็เริ่มรัดตัวนักเทศน์ จนเขาหันหลังกลับ เพราะกลัวจนตัวสั่น และได้นั่งลง และได้เอาไบเบิ้ลไปไว้ที่ใต้เก้าอี้ (ซ่อนพระคำของพระเจ้าไว้ ) หลังจากนั้น งูเขียวยักษ์ก็จับดาบและทำเครื่องหมายว่า ถ้าผู้ใดเชื่อฟังพระสุรเสียงและพระวจนะของพระเจ้า เราจะฆ่าด้วยดาบนี้

และเสียงดังครั้งที่สามได้ออกมาจากแท่นเทศนา นักเทศน์คนที่สามได้ออกมา และกลับไปนั่งสภาพเหมือนสองคนแรกที่ออกมาก่อนหน้านี้ และจะกี่ครั้งก็ตาม ที่เสียงนั้นดังออกมา เพื่อที่จะหานักเทศน์ ที่จะต่อสู้กับงูใหญ่ แต่ทุกคนก็กลัวกันไปตามๆกัน เช่นเดียวกับสามคนแรก ที่ออกมา และงูใหญ่ (ซาตาน) ก็ยิ้มแบบหัวเราะเยาะเย้ยแบบชั่วร้าย และหลังจากนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นจากที่แท่นเทศนา บอกว่า มีใครสักคนไหม มีใครสักคนไหม โอ.. จะมีใครสักคนไหม ผู้ที่ซึ่งจะประกาศความจริงทั้งหมดนี้ ที่เป็นคำปรึกษาของพระเจ้าแท้จริง เพื่อที่จะให้ผู้คนที่ถูกโซ่ตรวนผูกมัดอยู่นั้น ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ จะมีสักคนไหม ?

และ หลังจากนั้น มีผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งเดินออกมา (หมายถึง ผู้ซึ่งไม่ได้อยู่ในสายตาของโลกนี้ ) มายืนที่หน้าเวที ห้องประชุม ยืนภายใต้พระวจนะ และเขาได้มองขึ้นไปบนฟ้าสวรรค์ และบอกว่า พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์ ขอมอบถวายจิตวิญญาณไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า และเขาได้เปิดไบเบิ้ล และอ่าน โดยไม่ได้เพิ่ม(ความคิดตัวเองเข้าไป) และตัดข้อความพระวจนะอย่างใดอย่างหนึ่งออกไป หลังจากที่เขาอ่าน พระวจนะ เขาพูดด้วยเต็มไปด้วยฤทธิ์เดชและอำนาจ ที่มาจากพระเจ้า

เมื่อเขาพูดจบลง งูใหญ่เก่าแก่ ก็ม้วนตัวจับดาบและดึงดาบนั้นออกมาจากลวด จนลวดสลิงขาดไปข้างหนึ่ง และลวดนั้นเหลืออยู่ฝั่งเดียวที่จับดาบไว้ ดาบนั้นก็ฟันลงไป แต่ไม่โดนผู้ชายตัวเล็กๆที่เทศนานี้ และผ่านหัวเขาไป เพราะว่าเขาเป็นเพียงผู้ชายตัวเล็กๆ และน้ำหนักของดาบที่เหวี่ยงไปกับลวดสลิงนั้น ดาบก็ย้อนกลับมาไป แทงหัวใจของนักเทศนาที่ยืนเรียงกันอยู่ และ ดาบนั้นก็ปักนักเทศนาที่ยืนเรียงกันอยู่ติดกำแพง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงหวีดร้อง แบบไร้ความหวัง มาจากแท่นเทศนา แต่หลังจากนั้น เสียงร้องไห้ กลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี จากผู้คนในห้องประชุม เพราะพวกเขาทุกคนถูกปลดปล่อย จากโซ่ตรวนที่ล่ามขาเขา และจากกุญแจมือที่ล็อคมือของพวกเขาไว้ (ความจริงจากพระวจนะของพระเจ้า พวกเขาถูกปลดปล่อยเป็นไท )

และหลังจากความฝันและนิมิตนี้ จบลง ข้าพเจ้าได้เห็นอีกนิมิต คือพระผู้ช่วยให้รอด อยู่ในเมฆ อยู่เหนือศรีษะของข้าพเจ้า พระองค์ได้ตรัสว่า ลูกของเราเอ๋ย ความหมายของสิ่งนี้คือ ห้องประชุมโบสถ์ที่เจ้าได้เห็นนี้ หมายถึง โบสถ์ที่ได้ตั้งอยู่บนฐานของพระวจนะของพระเจ้า มีโครงสร้างของพระเจ้า แต่ปฏิเสธ ฤทธิ์อำนาจ ที่มาจากพระเจ้า สมาชิกทุกคนในโบสถ์ ได้สวมเครื่องประดับจิวเวลลี่ ที่เป็นความสุขของฝ่ายโลก และแสวงหาเงินและทอง แบบไม่มีสิ้นสุด ผู้คนที่เจ้าได้เห็น คือคนที่เราได้ตายไถ่บาปแทนพวกเขาแล้ว คนของเราถูกทำลายไปเพราะขาดความรู้ (ที่เป็นความจริงจากพระวจนะของพระเจ้า) พวกเขามีตา แต่พวกเขามองไม่เห็น พวกเขามีหู แต่พวกเขาไม่ได้ยิน พวกเขาถูกมัดด้วยโซ่ตรวน และจำต้องถูกปลดปล่อย

เวทีข้างหน้าห้องประชุมที่เจ้าเห็น และคนที่เทศนาด้วยเสื้อคลุมหรูหรา ที่นั่งเรียงแถวพร้อมขึ้นเทศนา เวทีการเทศนานี้ ต้นกำเนิดของความคิดนั้นได้เริ่มต้นออกมาจาก ขุมนรก แท่นเทศนา จากพระบัลลังก์ของพระเจ้า และงูเก่าแก่ นั้นหมายถึงลูซิเฟอร์(ตัวเอง ไม่ใช่สมุน) ดาบที่เจ้าเห็นหมายถึงพระวจนะของพระเจ้า และถูกยึดด้วยลวดสลิง และแขวนอยู่ หมายถึง พระวจนะของพระเจ้ามีฤทธิ์อำนาจ ที่จะให้ชีวิต และมีฤทธิ์อำนาจที่จะเอาชีวิตไปเสีย ชีวิตได้มอบให้กับนักเทศนาตัวเล็กๆ และชีวิตได้เอาไปจากนักเทศนาที่สวมเสื้อคลุมหรูหรา ซึ่งไม่ได้เทศนาคำของเรา ผู้ที่เทศนาเหล่านี้ หมายถึงผู้หญิงหรือผู้ชาย จากทุกๆโบสถ์ ซึ่งเขา แกล้งทำเป็นรู้จักเรา แต่พวกเขาสอนคนของเรา ในสิ่งที่ไม่ได้มีชื่อเขียนไว้ในสมุดแห่งชีวิต แต่เพราะความเย่อหยิ่ง และ ความเชื่อมั่นในตัวเอง และจากวิญญาณ(คำพูด)ของโลกนี้ ทำให้เขาเกิดแรงผลักดันให้ไปเชื่อฟังซาตาน ซึ่งเป็นเจ้าแห่งการโกหกหลอกลวง และ เป็นพ่อของการมุสา นักเทศนาแต่ละคน พยายาม ที่จะเพิ่ม หรือ ยกตัวเองมากขึ้น และเขียนหนังสือขึ้นเพื่อการกำไรส่วนตัว และถกเถียงกันและกัน แต่พวกนักเทศนาเหล่านั้นพิจารณาพระคำเป็นแค่ตัวหนังสือ แต่ไม่ได้เข้าใจพระวจนะเป็นจิตวิญญาณ และเมื่อวันนั้นมาถึง เมื่อเขาอยู่ในมือเรา พวกเขาจะถูกทำโทษ อย่างที่เห็น

หลังจากนั้น ข้าพเจ้าได้พิจารณา นิมิตรที่ผ่านมานี้ พระเยซูคริสต์ ได้ตรัสต่อ บอกให้ข้าพเจ้ารู้และจำได้ว่า คำพูดที่พระองค์ได้ตรัสใน ผู้พยากรณ์เยเรมีย์ 23 และเหมือนในคำพูดของพระองค์ ที่พูดตรัส ในผู้พยากรณ์ เอเสเคียล 34 พระเยซูคริสต์ ตรัส และบอกให้ ข้าพเจ้าอ่าน และข้าพเจ้าได้เปิดไบเบิ้ลอ่าน

คำพยากรณ์ถึงการรวบรวมอิสราเอล Regathering of Israel Foretold
เยเรมีย์ 23:1 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า " วิบัติจงมีแก่ผู้เลี้ยงแกะผู้ทำลายและกระจายแกะ ของลานหญ้าของเรา"

23:1 Woe be unto the pastors that destroy and scatter the sheep of my pasture! saith the LORD.

ในหนังสือของผู้พยากรณ์เยเรมีย์ ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งเลวร้าย เพราะเขาได้ล่วงประเวณี และเขาได้ดำเนินชีวิตที่ผิด (ได้เปลี่ยนพระวจนะของพระเจ้า ) และทำให้ความแข็งแกร่งอยู่ในมือผู้คนที่ทำสิ่งชั่วร้าย

เยเรมีย์ 23:14 แต่ในผู้พยากรณ์แห่งเยรูซาเล็ม เราได้เห็นสิ่งอันน่าหวาดเสียว เขาล่วงประเวณีและดำเนินอยู่ในความมุสา เขาทั้งหลายหนุนกำลังมือของผู้กระทำความชั่ว จึงไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดหันจากความชั่วของเขา เขาทุกคนกลายเป็นเหมือนเมืองโสโดมแก่เรา และชาวเมืองนั้นก็เหมือนเมืองโกโมราห์"
23:14 I have seen also in the prophets of Jerusalem an horrible thing: they commit adultery, and walk in lies: they strengthen also the hands of evildoers, that none doth return from his wickedness: they are all of them unto me as Sodom, and the inhabitants thereof as Gomorrah.

พระเยซุคริสต์ ตรัสว่า ในวันสุดท้าย พวกท่านจะได้เข้าใจ วิบัติแก่ผู้เลี้ยงแกะที่ได้เลี้ยงตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้เลี้ยงแกะ

34:2 " บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์กล่าวโทษบรรดาผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล จงพยากรณ์และกล่าวแก่เขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสแก่พวกผู้เลี้ยงแกะดังนี้ว่า วิบัติแก่ผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล ผู้เลี้ยงตัวเอง ผู้เลี้ยงแกะย่อมเลี้ยงแกะมิใช่หรือ
34:2 Son of man, prophesy against the shepherds of Israel, prophesy, and say unto them, Thus saith the Lord GOD unto the shepherds; Woe be to the shepherds of Israel that do feed themselves! should not the shepherds feed the flocks?

ผู้ที่อ่อนแอ ผู้เลี้ยงแกะไม่ได้เสริมกำลัง ผู้ที่ป่วยเจ้าไม่ได้รักษา ผู้ที่กระดูกหักเจ้าไม่ได้ต่อให้เข้าที่ และผู้ที่หลงหายไป เจ้าไม่ได้ไปตาม เจ้าได้ปกครองเขาด้วยการบังคับและด้วยการข่มขี่เบียดเบียน

เอเสเคียล 34:4 ตัวที่อ่อนเพลียเจ้าก็ไม่เสริมกำลัง ตัวที่เจ็บเจ้าก็ไม่รักษา ตัวที่กระดูกหักเจ้าก็มิได้พันผ้า ตัวที่ถูกขับไล่ออกไปเจ้าก็มิได้ไปตามกลับมา ตัวที่หายไปเจ้าก็มิได้เสาะหา และเจ้าได้ปกครองเขาด้วยการบังคับและด้วยการข่มขี่เบียดเบียน
34:4 The diseased have ye not strengthened, neither have ye healed that which was sick, neither have ye bound up that which was broken, neither have ye brought again that which was driven away, neither have ye sought that which was lost; but with force and with cruelty have ye ruled them.

เราจะทำลาย คนที่เลี้ยงแกะที่อ้วนพลี และแข็งแรง เราจะลงโทษเขาด้วยการพิพากษา

เอเสเคียล 34:16 เราจะเที่ยวหาแกะที่หาย และเราจะนำแกะที่ถูกขับไล่ออกไปกลับมาอีก และเราจะพันผ้าให้แกะที่กระดูกหัก และเราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย แต่ตัวที่อ้วนและเข้มแข็งเราจะทำลาย เราจะเลี้ยงเขาด้วยความยุติธรรม
34:16 I will seek that which was lost, and bring again that which was driven away, and will bind up that which was broken, and will strengthen that which was sick: but I will destroy the fat and the strong; I will feed them with judgment.

และพระองค์ได้ตรัส กับข้าพเจ้าต่อไปว่า คนเลี้ยงแกะที่สอนผิดๆ ไม่สามารถที่จะมีสติปัญญาที่จะหนีรอดพ้นไปจากดาบแห่งพระวจนะ ที่จะฟันตัวเอง ลูกแกะของเราควร ได้รับการตักเตือน เพื่อเขาจะไม่ตกอยู่ภายใต้โซ่ตรวนที่ผูกมัด และพวกเขาจะได้เป็นอิสระ

พระองค์ได้ตรัสต่อไปว่า เจ้าจำ คำพูดเราในผู้พยากรณ์ เยเรมีย์ ได้ไหม ในบทที่ยี่สิบห้า อ่านเดี๋ยวนี้ หลังจากที่ข้าพเจ้า อ่าน พระคำบทที่ยี่สิบห้า เมื่อวันของพระเจ้ามาถึงผู้เลี้ยงแกะที่สอนผิดๆ จะไม่สามารถหนีรอดไปได้

25:33 และบรรดาผู้ที่พระเยโฮวาห์ทรงประหารในวันนั้น จะมีจากปลายโลกข้างนี้ถึงปลายโลกข้างโน้น เขาเหล่านั้นจะไม่มีใครโอดครวญให้ หรือรวบรวมหรือฝังไว้ แต่จะเป็นมูลสัตว์อยู่บนพื้นดิน '"
25:33 And the slain of the LORD shall be at that day from one end of the earth even unto the other end of the earth: they shall not be lamented, neither gathered, nor buried; they shall be dung upon the ground.

เราจะสังหารผู้ที่เลี้ยงแกะ และพระเยซูคริสต์ ตรัสต่อไปว่า วันเหล่านี้จะมาถึงเร็วมากขึ้น เพราะผู้เลี้ยงแกะจะร้องไห้ไปในที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน และคมดาบของพระวจนะจะหล่นใส่พวกเขา เป็นนิจนิรันดร์ และสายเกินไปที่พวกเขาจะแก้ตัว

ผู้ชายตัวเล็กๆที่เจ้าได้เห็น หมายถึง ผู้หญิงหรือ ผู้ชายที่ถ่อมใจแท้จริง และเชื่อฟังคำของเรา ถึงแม้จะตายบนทางกางเขน ก็ยังเชื่อถือและ วางใจ พระเจ้า และได้ฝากจิตวิญญาณ ไว้กับพระเจ้า และได้ทำตาม และประกาศความจริง ให้คำปรึกษาที่แท้จริงของพระเจ้า แต่เราจะหาคนเหล่านนั้นได้ที่ไหน เจ้าบอกเราได้ไหม มีสักคนไหม คนแบบนั้น เราจะสั่นสะเทือนสวรรค์ และแผ่นดินโลก พระองค์ ตรัสดังนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น