เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

โบสถ์ที่แท้จริงมีลักษณะอย่างไร


โบสถ์ที่แท้จริงมีลักษณะอย่างไร

โดย Robert G. Barbaria โรเบิร์ต์ จี บาร์บาเรีย

คำนำ

คำว่า โบสถ์ ได้กล่าวถึงใน คำสอนของพระเยซูคริสต์ พระกิติคุณ สี่เล่ม สามครั้ง และไม่ได้พูดถึง ในพระกิติคุณ ยอห์นและ มาระโก อย่างไรก็ตามผมได้ยินตั้งแต่เกิด คำบอกเล่ามาว่า พวกเด็กๆควรไปโบสถ์เพื่อที่จะไปมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า เพราะโบสถ์คือบ้านของพระเจ้า ผมก็ได้เชื่อมาตลอด เหตุผลที่ผมเชื่อ เพราะผมไม่เคยอ่านพระคำภีร์ไบเบิ้ลเป็นการส่วนตัว

หลังจากที่พระเจ้าได้เสด็จมาเยี่ยมผม(โรเบิต จี บาบาเรีย) ใน ปี 1997 พระองค์ได้บอกให้ผมไปซื้อ พระคำภีร์ไบเบิ้ล KJV 1611 ผมได้อ่านจาก หน้าแรกไปถึงหน้าสุดท้าย ผมอ่านวันละ สี่ ถึง หก ชั่วโมงทุกวัน ทำให้ผมรู้ว่า คำสอนที่สอนที่โบสถ์ ได้สอนสับสน กับคำสอนของพระเยซูคริสต์ และได้พบความจริงกับตัวเองว่าที่โบสถ์ สอนเป็นแนวศาสนา ซึ่งบางส่วนเอามาจากคำสอนของบุคคล บางคนได้เอาพระคำไปขายกิน และบางคนสอนไม่สมบูรณ์ แตกต่างไบเบิ้ลเขียนไว้ นี้คือสิ่งทำให้ดูหมิ่นพระเยซูคริสต์และ พระคำของพระเจ้า

ถ้าท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ในแต่ละบท พระคำได้บอกหลายสิ่งที่คุณได้รับการสอนจากที่โบสถ์ เป็นคำสอนที่ผิดพลาด ต่างจากคำสอนของพระเยซูคริสต์ ยืนยันได้แบบแน่นอนที่สุดว่าพระเยซูคริสต์ได้ ห้ามอย่างเด็ดขาด หนังสือเล่มนี้ได้แนะนำ และได้ยกพระคำเพื่อ ต่อต้านที่ คำสอนโบสถ์ เพื่อให้ท่านเห็นด้วยตัวของท่านเอง ว่าโบสถ์ได้สอนแตกต่างจากคำสอนของพระเยซูคริสต์ เป็นอย่างมาก เราไม่ได้มาให้ท่านยอมรับความคิดเห็นจากหนังสือ แต่ให้พวกท่านไปคิดเอาเอง ว่ากิจกรรมที่โบสถ์ที่ทำกันอยู่ เทียบกับการพระคำของพระเจ้า ว่าท่านจะยอมรับ หรือ ปฏิเสธความจริง บน พื้นฐานพระคำภีร์ ไม่ใช่จากความคิดเห็นของบุคคล

สมัยก่อนพวกเราคิดว่า โบสถ์คือ สถานที่ที่พวกเราทั้งหลายได้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเมื่อได้อ่าน พระคำภีร์ไบเบิ้ล นั้นได้ให้เราได้เข้าใจ ความหมายว่า

โบสถ์ที่แท้จริงคือ กลุ่มคนได้มารวมตัวกัน ผู้ซึ่งได้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าส่วนตัว และพระคำได้บอกไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้คนคนหนึ่งได้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า พวกเขาทุกคนเริ่มแรกต้องได้รับพระคำของพระเจ้า และพระคำของพระเจ้าคือ พระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา

พระเยซูเป็นพระวาทะของพระเจ้า
ยอห์น 1:1 ในเริ่มแรกนั้นพระวาทะทรงเป็นอยู่แล้ว และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า พระเยซูทรงรับ(กลาย)สภาพมนุษย์
ยอห์น 1:14 พระวาทะได้ทรงสภาพของเนื้อหนัง และทรงอยู่ท่ามกลางเรา ( และเราทั้งหลายได้เห็นสง่าราศีของพระองค์ คือสง่าราศีอันสมกับพระบุตรองค์เดียวที่บังเกิดจากพระบิดา) บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง

บุคคลคนหนึ่งจะสามารถมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ มีเพียงทางเดียวเท่านั้น คือผ่านทางพระเยซูคริสต์ และพระเยซูคริสต์ คือ พระคำของพระเจ้า และพระคำของพระเจ้าคือ ไบเบิ้ล ( KJV 1611 ) ถ้าผู้ใดถามท่านว่า ท่านมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าหรือไม่ ถ้าท่านตอบว่าใช่ นั้นคือแน่นอนที่สุด สำหรับท่านต้องอ่านไบเบิ้ล ทุกๆวัน ตั้งแต่เริ่มเชื่อ และพยายามที่จะดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้า ท่านก็พิพากษาตัวเอง บนพื้นฐานของพระคำภีร์ ว่าได้เชื่อฟังมากน้อยเท่าไร ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องมี ผู้นำหรือ หรือ ศิยาภิบาลมาสอน ว่าสิ่งไหนควรทำและสิ่งไหนไม่ควรทำ เพราะท่านได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงนำผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระคำของพระเจ้า

พระเจ้าได้ให้ไบเบิ้ล(พระเยซูคริสต์) ถูกเขียนขึ้นมา เพื่อบุตรของพระเจ้า และประชากรของพระองค์ และสิ่งที่อัศจรรย์ที่สุด ในส่วนนี้คือ พันธสัญญาใหม่ ที่ซึ่งพระเยซูคริสต์ ได้ทรงนำมาสู่โลก และแต่ละคนก็ไม่จำเป็นอีกแล้วที่จะคาดหวังที่จะให้คนอื่นมาช่วยคุณให้รอด เพราะทางรอดของท่านมีเพียงทางเดียว พระเจ้าให้ผ่านทางพระเยซูคริสต์

ความรอดสำหรับมนุษย์ทั้งปวง
อิสยาห์ 55:1 โอ เชิญทุกคนที่กระหายจงมาถึงน้ำ และผู้ที่ไม่มีเงินมาซื้อกินเถิด มาซื้อน้ำองุ่นและน้ำนมเถิด โดยไม่ต้องเสียเงินเสียค่า น้ำที่ได้พูดถึงในอิสยาห์ หมายถึง น้ำแห่งชีวิต พระคำของพระเจ้าได้พูดผ่านพระเยซูคริสต์ ในพระกิติคุณยอห์น

ยอห์น 4:10 พระเยซูตรัสตอบนางว่า ? ถ้าเจ้าได้รู้จักของประทานของพระเจ้า และรู้จักผู้ที่พูดกับเจ้าว่า ` ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง ' เจ้าจะได้ขอจากท่านผู้นั้น และท่านผู้นั้นจะให้น้ำประกอบด้วยชีวิตแก่เจ้า ?

ก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึง โบสถ์ที่แท้จริงหมายถึง กลุ่มของคนที่ได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้า ได้มีชีวิตที่พระเจ้าได้ทรงเลือกให้เป็นพี่น้องกัน และเพื่อที่จะแบ่งปัน พระคำของพระเจ้า (พระเยซูคริสต์) เพราะพระเยซูคริสต์ ได้กล่าวว่า มีผู้เลี้ยงแกะเพียงผู้เดียว เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี และมีฝูงแกะฝูงเดียว

ผู้ เลี้ยงแกะที่ดี หมายถึง พระเยซูคริสต์ พระคำภีร์ไบเบิ้ล และมีฝูงแกะฝูงเดียว หมายถึง โบสถ์ที่แท้จริง พวกเขาดำเนินชีวิตตามพระคำภีร์

ยอห์น 10:14 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี และเรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา
ยอห์น 10:15 เหมือนพระบิดาทรงรู้จักเรา เราก็รู้จักพระบิดาด้วย และชีวิตของเรา เราสละเพื่อฝูงแกะ
ยอห์น 10:16 แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว

ผู้ เลี้ยงแกะคือพระคำภีร์ไบเบิ้ล และ ฝูงแกะเป็นกลุ่มคนซึ่งดำเนินชีวิตตามพระคำภีร์ เมื่อพระเยซูคริสต์ได้เผชิญกับมารร้าย และได้ท้าทายว่า ให้เปลี่ยน ก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็นขนมปัง(อาหาร) พระเยซูคริสต์ได้ตรัสว่า มนุษย์ไม่สามารถดำเนินชีวิตด้วยอาหารอย่างเดียวแต่ทุกๆคำพูดที่ออกมาจากพระ เจ้า

มัทธิว 4 : 4 ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า

พระเยซูคริสต์ ได้อ้างอิงถึง พระคำของพระเจ้า เปรียบเสมือนอาหารจากสวรรค์ และบอกว่า เมื่อท่านได้กินอาหารนี้ท่านจะไม่ตาย เพราะอาหารนี้สำคัญต่อจิตวิญญาณ( SPIRIT SOUL)ของท่าน ตลอดที่อาศัยอยู่ในโลกนี้จนถึงชั่วนิจนิรันดร์

ยอห์น 6:32 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า " เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า มิใช่โมเสสที่ให้อาหารจากสวรรค์นั้นแก่ท่าน แต่พระบิดาของเราประทานอาหารแท้ซึ่งมาจากสวรรค์ให้แก่ท่านทั้งหลาย

จะมีอะไรในชีวิตของพวกท่านที่สำคัญไปกว่า การอ่านพระคำภีร์ ไบเบิ้ลเพราะเป็นอาหารที่จัดเตรียมสำหรับ จิตวิญญาณของท่าน ( SPIRIT SOUL) เพื่อที่จะได้มีชีวิต (แต่โบสถ์ไม่ได้สอนให้อ่านพระคำภีร์และติดสนิท เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต) พระเจ้าได้ให้พระคำภีร์ไบเบิ้ลเป็นหนังสือแห่งการเตือนความทรงจำ ซึ่งอ่านโดยผู้ที่รักพระเจ้า พระเจ้าได้บอกว่า เมื่อเวลามาถึงที่พระองค์จะทำการเจียระไนอัญมณีที่มีชีวิต (คนที่รักพระเจ้า) พระองค์จะดูแลเขา คนที่รักและอ่านพระคำของพระเจ้า เหมือนเป็นบุตรของพระองค์ และเป็นเหมือนเป็นบุตรคนเดียวของพระองค์ (พระเยซูคริสต์ )

หนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำสำหรับ บุตรของพระองค์(ที่เป็นหมือนพระเยซูคริสต์)
มาลาคี 3:16 แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเยโฮวาห์จึงพูดกันและกัน พระเยโฮวาห์ทรงฟังและทรงได้ยิน และมีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำหน้าพระพักตร์ ได้บันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระเยโฮวาห์ และที่ตรึกตรองในพระนามของพระองค์ไว้

มาลาคี 3:17 พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสว่า "เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นเพชรพลอยของเราในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะไว้ชีวิตคนเหล่านี้ ดังชายที่ไว้ชีวิตบุตรชายของเขา ผู้ปรนนิบัติ(พ่อ)เขา

คำสอนจากที่โบสถ์ส่วนใหญ่ได้โปรโมทส่งเสริมเป็น ศาสนาและไม่ได้ช่วยให้มีความสัมพันธ์ สนิมสนมกับพระเจ้า โบสถ์วันอาทิตย์ทุกวันนี้ ผู้คนมากมาย เปรียบเหมือนฝูงแกะ ที่ได้ถูกนำไปฆ่า มองดูภายนอกพวกเขาเหมือนเชื่อว่าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า พวกผู้นำ ศิษยาภิบาล ได้นำฝูงแกะไปฆ่า และพวกเขาเป็นคนฆ่าเสียเอง พวกเขาได้สนใจแต่ขายฝูงแกะไปฆ่า

เศคาริยาห์ 11:4 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงเลี้ยงฝูงแพะแกะที่ต้องถูกฆ่า
เศคาริยาห์ 11: 5 บรรดาผู้ที่ซื้อมันไปก็ฆ่ามันเสีย และไม่ต้องมีโทษ และบรรดาคนที่ขายมันกล่าวว่า ` สาธุการแด่พระเยโฮวาห์ เพราะข้าพเจ้ามั่งมีแล้วและเมษบาลของมันทั้งหลายไม่สงสารมันเลย

แต่ พวกผู้นำ ศิษยาภิบาล ไม่ควรคิดว่าประชาชน เป็นเหยื่อ เหมือนฝูงสิงห์โตที่ตะคุบ กินอาหารจากเหยื่อ เพราะว่า พระเจ้า ของท่านจะเลี้ยงท่าน ถ้าท่านหันมาหาพระคำของพระเจ้า ได้นำมาเป็นอาหารและเอาการปฎิบัติแบบศาสนาและผู้นำศาสนาออกไป พวกเขา(ผู้นำ)ที่ต้องการจะทำร้ายพวกท่านไปฆ่าจะลื่นไถลไป สำหรับพวกเขาผู้นำได้ถูกผูกมัดและมัดท่านไว้กับโลกและในที่สุดก็ดึงพวกท่านไปตกหลุม(นรก) ที่ซึ่งพวกเขาผู้นำก็อยู่ที่นั้น

เศคาริยาห์ 11: 6 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เพราะเราจะไม่สงสารชาวแผ่นดินนี้อีกต่อไป ดูเถิด เราก็จะกระทำให้เขาต่างคนตกเข้าไปในมือของเพื่อนบ้านของเขา และต่างก็ตกไปในหัตถ์ของกษัตริย์ของเขา และท่านจะบีบแผ่นดินให้แหลก และเราจะไม่ช่วยเหลือคนหนึ่งคนใดให้พ้นมือของท่านทั้งหลายเลย
เศคาริยาห์ 11:7 ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงจะได้เลี้ยงดูฝูงแพะแกะที่ถูกฆ่า คือตัวเจ้าเอง โอ พวกที่น่าสงสารแห่งฝูงแกะเอ๋ย ข้าพเจ้าจึงเอาไม้เท้าสองอัน อันหนึ่งให้ชื่อว่า ( BEAUTY) พระคุณ อีกอันหนึ่งข้าพเจ้าให้ชื่อว่า ( BANDS) สหภาพ และข้าพเจ้าก็เลี้ยงดูฝูงแกะ

ไม้เท้าสองอัน ที่พระคำพูดถึง หมายถึง พระเยซูคริสต์ เรียกว่า ( BEAUTY) พระคุณ และผู้สื่อสาร 182 เรียกว่า ( BANDS) คลื่นส่ง นี้หมายถึง มีสองสิ่งที่ได้รับการเจิม ซึ่งได้พูดภถึงใน เศคาริยาห์ 4:14 , 11.8-11.17 ได้บรรยาย เป้าหมายของ ทั้งสอง พระคุณ (พระผู้ช่วยให้รอด เมสิยาห์) และผู้ส่งข่าวสารเมสิยาห์

คำว่า คริสต์ ( Christ) ในภาษากรีก ( Christo) หมายถึง ผู้ที่ได้รับการเจิม และภาษาฮิบบรู หมายถึง MESSIYAH ก็มีความหมายแบบเดียวกัน

โบสถ์ของคริสเตียน ที่พวกท่านไป ไม่ได้เข้าใจพระคำของพระเจ้าและไม่ได้รับการเจิม และไม่ควรสอน(แนะนำแบบผิด) เพราะโบสถ์คือสถานที่ ที่พวกเขาจะฝากชีวิตนิรันดร์ ถ้าพื้นฐานการสอนผิดไปจากพระคำของพระเจ้า ทำไมยังปล่อยให้พวกเขาไปเชื่อและวางใจเขา ควรหรือที่ไปจ่ายเงิน (ถวาย)ให้ มหาวิทยาลัย ที่สอน 2+2=5

พระคำภีร์ได้ บอกใน ( วิวรณ์ 2 :18 -23 ) ได้บอกว่า โบสถ์ที่สอนผิด ไปจากพระคำของพระเจ้า และผู้ที่ไปเชื่อคำสอนเหล่านั้นก็ถูกลงโทษด้วย สำหรับการกระทำเหล่านั้น เมื่อ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้ผลักพวกผู้นำและศิษยาภิบาล ของที่โบสถ์ ผู้ซึ่งสอนพระคำของพระเจ้าให้มีความหมายผิดไป ลงไปในบึงไฟนรก แล้วคนที่เชื่อคำสอนเหล่านั้น ในวันพิพากษาก็ไม่ได้แตกต่างกัน

นี่เป็นเรื่อง ซีเรียจ เอาจริงเอาจัง เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ คือ เป็นสิ่งนิจนิรันดร์

(ของจิตวิญญาณของผู้คน ว่าจะไปสวรรค์ หรือ นรก ) ไม่ควรมองข้าม

หนังสือวิวรรณ์ได้เตือนให้ โบสถ์ที่สอนผิดความหมายของพระคำของพระเจ้า ว่า สถานที่ หญิงล่วงประเวณี พระเจ้าได้เตือนให้ออกมา อย่าไปมีส่วนร่วมกับความบาปล่วงประเวณีเหล่านั้น

วิวรณ์ 18:4 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งประกาศมาจากสวรรค์ว่า "ชนชาติของเรา จงออกมาจากนครนั้นเถิด เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีส่วนในการบาปของนครนั้น และเพื่อท่านจะไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดแก่นครนั้น
วิวรณ์ 18:5 เพราะว่าบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น