เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

ต้นกำเนิดของศาสนา และ ความหมายของศาสนา

ต้นกำเนิดของศาสนา และ ความหมายของศาสนา

ก่อนอื่นให้พวกเราได้เข้าใจคำจำกัดความ คำว่าศาสนา และความหมายที่แท้จริงที่เกี่ยวข้องกับพระคำของพระเจ้า (คำพูดที่พระเจ้าทรงตรัสขึ้นมา)

ศาสนา หมายความถึง การปรนนิบัติและนมัสการพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ เป็นพระเจ้าผู้เที่ยงแท้ แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

หรือ ศาสนา อาจจะหมายถึง องค์กรที่รวมกลุ่มของความเชื่อวางใจในการนมัสการ และรวมถึงมนุษย์ได้จัดการให้เป็นระบบระเบียบในการนมัสการพระเจ้าเทียมเท็จ พระเจ้าที่ไม่เที่ยงแท้ (โกหก) แต่มนุษย์ยังคงความปรารถนาที่จะเขียนกฏเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อที่บอกว่าคนๆหนึ่งควรจะนมัสการกราบไหว้อย่างไร

ไม่ได้มีวิธีการพิเศษเฉพาะเจาะจงที่ได้ให้ความหมายในพระคำภีร์ว่า มนุษย์ควรกราบไหว้ นมัสการพระเจ้าอย่างไร และถ้าท่านได้อ่านหลายสิ่งหลายอย่างที่ข้อความที่บันทึกไว้ในพระคำภีร์ไบเบิ้ล แบ่งแยกออกออกมา ท่านจะไม่พบ บอกว่ามีการนมัสการพระเจ้าเป็นความสัมพันธ์ไกล้ชิดเหมือนสองคนว่าต้องทำอย่างไร

นอกจากจะเห็นว่าทุกคนได้ถวายเครื่องบูชาเพื่อที่จะลบ(ไถ่)สำหรับความบาปของตัวเอง และความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ออกมาเป็นหลาย รูปแบบ แตกต่างกัน ความปรารถนาที่แต่ละคนจะนมัสการบูชาพระเจ้า ได้แบ่งแยกไปแตกต่างกัน เพื่อที่จะไม่ให้สับสนระเบียบการนี้ จึงได้ให้กฏเกณฑ์ แก่ โมเสส เกี่ยวกับ ชุดที่สวมใส่ของปุโรหิต และผู้ที่ถือเครื่องถวายบูชา เข้าไปในเต้นพระวิหาร เกี่ยวกับ พันธสัญญาเก่าที่พระเจ้าเที่ยงแท้ได้มอบให้

สิ่งที่ต้องจัดเตรียมได้มีหลากหลายเกิดขึ้น พระเจ้าได้มอบให้แก่โมเสส ที่จะต้องสอน ปุโรหิต เมื่อมาถึงเต้นพระวิหาร นั้นหมายถึงที่จะให้พวกเขาระวังและปลอดภัย จากการถือเครื่องถวายบูชา ที่บริสุทธิ์ ที่เข้าไปในม่านพระวิหาร ในพระสิริของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ได้เขียนบันทึกจากโมเสส โดยส่วนตัว ซึ่งโมเสสไม่ได้บอกอะไรที่เป็นวิธีการเฉพาะ นอกจากโมเสสตัวเองได้ถอดรองเท้าขณะยืนอยู่ที่พื้นบริสุทธิ์ ที่จะเข้าเฝ้านมัสการพระเจ้า นี้คือเพราะโมเสสได้มีความสัมพันธ์ไกล้ชิดส่วนตัวกับพระเจ้า ที่ซึ่งผู้อื่นที่จะมาถึงพระสิริของพระเจ้าที่จะปรากฏ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ไกล้ชิดกับพระเจ้า เป็นการส่วนตัว

คนอื่นๆนอกจากโมเสส ไม่ได้เข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับ ชุดที่ต้องใส่ กฏระเบียบ และการทำเครื่องหมาย ที่ซึ่งพระศิริของพระเจ้าจะปรากฏ ทูตสวรรค์ ได้เห็น และแบ่งแยกการนี้เป็นเฉพาะเป็นการปรนนิบัติในแต่ละบุคคล และจะได้ยอมรับเครื่องถวายบูชานั้น โดยวัดจากการเผาสิ่งนั้น หมายถึง การชำระทำให้บริสุทธิ์ นั้นได้ยอมรับจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ พระเจ้าคาดหวังจากพวกเขาเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ที่มีและผู้ซึ่งต้องการ ความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นพิเศษโดยส่วนตัว ที่ซึ่งพวกเขาจะเดินกับพระองค์ด้วยความถ่อมใจ มีสำนึกผิด กลับใจในจิตวิญญาณ

ความถ่อมใจ หมายถึง ไม่ได้เชื่อเอาความคิดเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ และหลีกเลี่ยงความหยิ่งยโส และมีความสำนึกผิดในจิตวิญญาณที่ต้องการจะกลับใจ นั้นหมายถึง รักษาการเปิดใจและมีความคิดปรารถนาที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องจากพระเจ้า เพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

มีคาห์ 6:6 ข้าพเจ้าจะนำอะไรเข้ามาเฝ้าพระเยโฮวาห์ และกราบไหว้ต่อพระพักตร์พระเจ้าเบื้องสูง ควรข้าพเจ้าเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยเครื่องเผาบูชาหรือ ด้วยลูกวัวอายุหนึ่งขวบหลายตัว หรือ

6:7 พระเยโฮวาห์จะทรงพอพระทัยการถวายแกะเป็นพันๆตัว และธารน้ำมันหลายหมื่นสาย หรือ ควรที่ข้าพเจ้าจะถวายบุตรหัวปีชำระการละเมิดของข้าพเจ้า หรือ คือถวายผลแห่งกายของข้าพเจ้าชำระบาปแห่งวิญญาณของข้าพเจ้า

6:8 โอ มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงสำแดงแก่เจ้าแล้วว่าอะไรดี และพระเยโฮวาห์ทรงมีพระประสงค์อะไรจากเจ้า นอกจากให้กระทำความยุติธรรม และรักความเมตตา และดำเนินด้วย ความถ่อมใจ ไปกับพระเจ้าของเจ้า

อิสยาห์ 57:15 องค์ผู้สูงเด่น คือผู้อยู่ในนิรันดร์กาล ผู้ทรงพระนามว่าบริสุทธิ์ ตรัสดังนี้ว่า "เราอยู่ในที่ที่สูงและบริสุทธิ์ และอยู่กับผู้ที่มีจิตใจสำนึกผิดและถ่อมลง เพื่อจะรื้อฟื้นจิตใจของผู้ใจถ่อม และรื้อฟื้นใจของผู้สำนึกผิด

พระคำที่ได้กล่าวไป ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร นอกจากท่าทางจากภายในใจที่ออกมาแบบถูกต้องในน้ำพระทัยของพระเจ้า ไม่ได้มีระเบียบการใดๆ ที่จะบอกไว้ว่าเราควรนมัสการพระเจ้าอย่างไร

นอกจากนี้ ทุกท่านสามารถลงความคิดเห็นจากพระคำในพระคำภีร์ได้ว่า ศาสนา หมายถึง กฏเกณฑ์ของมนุษย์ ที่ซึ่งไม่ได้มาจากพระเจ้า และท่านจะพบว่าเมื่อเราก้าวผ่านไปจากบทนี้ไป ศาสนา นั้นได้ถูกสร้างขึ้นจาก ลูกของพวกปิศาจซาตาน

การเริ่มต้น(ที่มา)ของศาสนา

เราได้อธิบาย ในหนังสือ การเปิดเผยความจริงในพระคำภีร์ ว่ามี การเกิดลูกของฝ่ายวิญญาณ 3 ชนิด ผ่านมาถึงในโนอาห์ และบุตรชายแฝด สามคนที่เกิดจากโนอาห์ 3 คน ที่ซึ่งทั้งสามนี้ บังเกิดจาก สาม ชนิด ของฝ่ายวิญญาณ

เชม The Bless Seed เป็นบุตรแห่งการอวยพร เป็นบุตรของพระเจ้า มีจิตวิญญาณ ( soul) เริ่มจาก อาแบล เกิดจากอาดัม และอีฟ

ฮาม The Damned Seed มนุษย์ที่ได้มีจิตวิญญาณ (ครึ่งเดียว)จากการแต่งงาน แต่เป็นบุตรแห่งคำแส่งสาป เป็นบุตรของลูซิเฟอร์ เริ่มจากคาอิน (จากอีฟ และ ลูซิเฟอร์)

ยาเฟท The Beast บุตรที่เกิดจากโลกนี้ ไม่มีจิตวิญญาณ ( คนต่างชาติ Gentile ) เป็นมนุษย์ที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นก่อน (อาดัม) มนุษย์ที่ปราศจาก จิตวิญญาณ ( soul) ไม่มีกฏเกณฑ์ ในหกวัน แรกที่สร้างโลก (ปฐมกาล 1:26 -27 KJV)

โน็ต โนอาห์มีบุตรสามคนเป็น แฝดสาม จากภรรยาคนเดียว พระคำภีร์ได้บอกว่ามี แปดคน ขึ้นไปในเรือก่อนน้ำท่วมโลก โนอาห์ และภรรยาของโนอาห์ บุตรชายของโนอาห์ ที่เป็น แฝด สามคน และภรรยา ของบุตรชายทั้งสาม

ปฐมกาล 5:32 โนอาห์มีอายุได้ห้าร้อยปี และโนอาห์ให้กำเนิดบุตรชื่อเชม ฮาม และยาเฟท 5:32 And Noah was five hundred years old: and Noah begat Shem, Ham, and Japheth.

ปฐมกาล 6:10 โนอาห์ให้กำเนิดบุตรชายสามคน ชื่อเชม ฮาม และยาเฟท
6:10 And Noah begat three sons, Shem, Ham, and Japheth.

ปฐมกาล 7:7 โนอาห์ทั้งบุตรชาย ภรรยาและบุตรสะใภ้ทั้งหลายจึงเข้าไปในนาวาเพราะเหตุน้ำท่วม
7:7 And Noah went in, and his sons, and his wife, and his sons' wives with him, into the ark, because of the waters of the flood.

ถ้าเราได้ติดตามเชื้อสายของบุตรชายของโนอาห์ ชื่อ ฮาม เราจะได้รู้จากพระคำภีร์ว่า ฮาม มีบุตรสี่คน ( ปฐมกาล 10:6 คิงเจม) บุตรชายทั้งหลายของฮามชื่อคูช มิส - รา - อิม พูต และคานาอัน คูชเป็นบุตรคนแรกของฮาม ซึ่งเกิดจากแม่ของที่เกิดฮาม ( ปฐมกาล 9:24 ซึ่ง การร่วมประเวณีระหว่างผู้ใกล้ชิดทางพันธุกรรมอย่างมาก) และซึ่ง พี่น้องอีกสามคนได้เกิดจาก ภรรยาของฮาม และ ฮามเป็นเชื้อสายของคาอิน ซึ่งเป็นบุตรของลูซิเฟอร์ เชื้อสายทูตสวรรค์ที่ถูกไล่ออกจกาสวรรค์ ดังนั้นสิ่งที่ฮามได้มีเพศสัมพันธ์กับแม่ของตัวเอง เป็นสิ่งต้องห้าม ที่ซึ่งทูตสวรรค์ได้เคยทำผิด หนึ่งครั้ง ซึ่งได้นำคำแช่งสาปเจ็ดชั่วคน ของคูช ซึ่งเชื้อสายแรกของคูช ซึ่งมาจากลูซิเฟอร์( ทูตสวรรค์ที่ถูกไล่ออกจากสวรรค์ ) คือ นิมโรด และนิมโรด สูง เก้าฟุต (เป็นมนุษย์สูงใหญ่)

ปฐมกาล 10:8 คูชให้กำเนิดบุตรชื่อนิมโรด เขาเริ่มเป็นคนมีอำนาจมากบนแผ่นดินโลก
10:8 And Cush begat Nimrod: he began to be a mighty one in the earth.

ปฐมกาล 10:9 เขาเป็นพรานที่มีกำลังมากต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ดังนั้นจึงว่า " เหมือนกับนิมโรดพรานที่มีกำลังมากต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์"
10:9 He was a mighty hunter before the LORD: wherefore it is said, Even as Nimrod the mighty hunter before the LORD.

ปฐมกาล 10:10 การเริ่มต้นอาณาจักรของเขาคือเมืองบาเบล เมืองเอเรก เมืองอัคคัด และเมืองคาลเนห์ในแผ่นดินของชินาร์
10:10 And the beginning of his kingdom was Babel, and Erech, and Accad, and Calneh, in the land of Shinar.

พระคำ ได้บอกเราว่า นิมโรด ได้เริ่มต้นอาณาจักรของตัวเอง ได้สร้างหอบาเบล ซี่งตอนแรกเรียกว่า เมืองของนิมโรด แต่ เมื่อเมืองนั้นได้ขยายใหญ่ขึ้น นิมโรดได้เป็นกษัตริย์ปกครอง เมืองของนิโรดได้รวบรวมคนสร้างกำแพง จากอิฐที่ไม่ได้มาจากหิน ตอนนั้นทุกคนได้พูดภาษาเดียวคือ ฮิบบรู ซึ่งฮิบบรูเป็นภาษา ของจิตวิญญาณ และภาษานี้ได้พูดอยู่ ทั่วไปทั้งเมือง ที่ซึ่งพวกเขาได้อยู่ในเมืองของนิมโรดที่มีขอบเขตบริเวณ นิมโรดเป็นเหมือน พ่อของพวกเขา นิมโรดประกอบด้วยความหยิ่ง เพราะว่า พวกซาตานปิศาจเป็นกษัตริย์ ที่ซึ่งได้อยู่ท่ามกลาง บุตรที่มีความหยิ่งจองหองทั้งหลาย

โยบ 41:33 บนแผ่นดินโลก ไม่มีอะไรเหมือนมัน เป็นสิ่งที่ถูกสร้างไม่ให้รู้จักความกลัว 41:33 Upon earth there is not his like, who is made without fear.

โยบ 41:34 มันเห็นทุกสิ่งที่อยู่สูง มันเป็นกษัตริย์เหนือบรรดาสัตว์ที่สง่า 41:34 He beholdeth all high things: he is a king over all the children of pride.

นิมโรดไม่ได้ประกอบไปเพียงแค่ ยกตัวเองเป็นกษัตริย์ เขาต้องการให้มองตังเองเหมือนเป็นพระเจ้า ดังนั้นเขาจจึงตัดสินใจ ที่จะสร้าง เมืองขึ้นมาเป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่ หอคอยสูงที่จะสามารถสูงไปถึงสวรรค์ และเพื่อทุกคนที่มาต่อหน้าเขาได้กราบไหว้ นิมโรด และกล่าวชมว่าเขาเป็นผู้วิเศษ และผู้มีพลังอำนาจ และผู้ที่ซึ่งมากราบไหว้นิมโรดๆได้ทำเสื้อพิเศษมาถวายเขา และได้ทำหมวกดูเหมือนมงกุฏ หมวกและเสื้อของนิมโรด ทำจากด้ายทองคำ และหินแกรนิตและ อัญมณีล้ำค่า และประชาชนเรียกเขาเป็นพระเจ้า

Tower of Babel หอบาเบล

ปฐมกาล 11:1 ทั่วแผ่นดินโลกมีภาษาเดียวและมีสำเนียงเดียวกัน
11:1 And the whole earth was of one language, and of one speech.

ปฐมกาล 11:2 และต่อมาเมื่อพวกเขาเดินทางจากทิศตะวันออกก็พบที่ราบในแผ่นดินชินาร์และพวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่น
11:2 And it came to pass, as they journeyed from the east, that they found a plain in the land of Shinar; and they dwelt there.

ปฐมกาล 11:3 แล้วพวกเขาต่างคนต่างก็พูดกันว่า "มาเถิด ให้พวกเราทำอิฐและเผามันให้แข็ง พวกเขาจึงมีอิฐใช้ต่างหินและมียางมะตอยใช้ต่างปูนสอ
11:3 And they said one to another, Go to, let us make brick, and burn them throughly. And they had brick for stone, and slime had they for morter.

ปฐมกาล 11:4 เขาทั้งหลายพูดว่า มาเถิด ให้พวกเราสร้างเมืองขึ้นเมืองหนึ่งและก่อหอให้ยอดของมันไปถึงฟ้าสวรรค์ และให้พวกเราสร้างชื่อเสียงของพวกเราไว้ เพื่อว่าพวกเราจะไม่กระจัดกระจายไปทั่วพื้นแผ่นดินโลก
11:4 And they said, Go to, let us build us a city and a tower, whose top may reach unto heaven; and let us make us a name, lest we be scattered abroad upon the face of the whole earth.

เมื่อเมืองนั้นได้สร้างเกือบจะเสร็จสมบูรณ์ และขณะที่เมืองนิมโรดกำลังอยู่ในก่อสร้าง ในระหว่างนั้น นิมโรดได้ ให้ประชาชนมารวมตัวกันมากราบไหว้เขาทั้งตอนพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เมื่อพระเจ้าได้ยินประชาชนทำดังนั้น และพระเจ้าได้ตรัสเขียนว่า

พระเจ้าทรงทำให้เกิดภาษาต่างๆ God Causes Division of Languages

ปฐมกาล 11:5 และพระเยโฮวาห์เสด็จลงมาทอดพระเนตรเมืองและหอนั้นซึ่งบุตรทั้งหลายของมนุษย์ได้ก่อสร้างขึ้น 11:5 And the LORD came down to see the city and the tower, which the children of men builded.

ปฐมกาล 11:6 แล้วพระเยโฮวาห์ตรัสว่า "ดูเถิด คนเหล่านี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และพวกเขาทั้งปวงมีภาษาเดียว พวกเขาเริ่มทำเช่นนี้แล้ว ประเดี๋ยวจะไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเขาได้ในสิ่งที่พวกเขาคิดจะทำ 11:6 And the LORD said, Behold, the people is one, and they have all one language; and this they begin to do: and now nothing will be restrained from them, which they have imagined to do.

ปฐมกาล 11:7 มาเถิด ให้พวกเราลงไปและทำให้ภาษาของเขาวุ่นวายที่นั่น เพื่อไม่ให้พวกเขาพูดเข้าใจกันได้ 11:7 Go to, let us go down, and there confound their language, that they may not understand one another's speech.

ปฐมกาล 11:8 ดังนั้นพระเยโฮวาห์จึงทรงทำให้เขากระจัดกระจายจากที่นั่นไปทั่วพื้นแผ่นดิน พวกเขาก็เลิกสร้างเมืองนั้น 11:8 So the LORD scattered them abroad from thence upon the face of all the earth: and they left off to build the city.

จากพระคำภีร์ เหตุผลที่พระเจ้าได้เอาภาษา ฮิบบรู ที่พูดกันอยู่ทั่วไป และซึ่งเป็นภาษาของจิตวิญญาณออกไปจากเขา เพราะ ภาษานี้เป็นภาษาจาก พระที่นั่งบัลลังก์ของพระเจ้า ผู้คนได้ถูกข่มแหงและปฏิเสธสิ่งที่บริสุทธิ์ ดังนั้นพระเจ้าได้เอา ภาษาฮิบบรู หรือ (ภาษาแปลกๆ)ที่พูดนั้นออกไป ซึ่งเขาไม่สามารถพูดได้ทั้ง คำพูดและจิตวิญญาณ แต่เหลือไว้แต่ภาษาพูดจากปากที่ออกเสียงเท่านั้น

และยังคงเหลือกลุ่มเล็กๆ ที่ซึ่งยังคงพูดอยู่ ภาษาท้องถิ่นนี้อยู่ และเขาไม่สามารถที่จะสนทนากลุ่มใหญ่ๆ เพราะไม่สามารถเข้าใจ และไม่สามารถสร้างเมืองและหอคอยสูง บาแบลได้อีกต่อไป จากนั้นหอบาเบลได้ถูกทำลาย ทำลาย

แต่อย่างก็ตาม ศาสนา ก็ยังคงอยู่ที่ซึ่งพวกเขาพูดภาษาเดียวกันกับนิมโรด

ปฐมกาล 11:9 เหตุฉะนั้นจึงเรียกชื่อเมืองนั้นว่า บาเบล เพราะว่าที่นั่นพระเยโฮวาห์ทรงทำให้ภาษาของทั่วโลกวุ่นวาย และ ณ จากที่นั่นพระเยโฮวาห์ได้ทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายออกไปทั่วพื้นแผ่นดินโลก 11:9 Therefore is the name of it called Babel; because the LORD did there confound the language of all the earth: and from thence did the LORD scatter them abroad upon the face of all the earth.

หลังจากนั้นคนกลุ่มเล็กๆ ที่พูดภาษาเดียวกัน ได้ออกไปคนละทิศ คนละทาง และเขาได้นำภาษาและศาสนาออกไป จากที่พวกเขาได้เรียนรู้ ในเมืองของนิมโรด บาแบล ที่ซึ่งเกิดเป็นวัฒนธรรม และศาสนาที่กลุ่มคนนับถือเป็นพิเศษส่วนตัว ทั้งหมดมีต้นกำเนิดจาก บาบิโลน

โน้ต เมื่อพระเจ้าได้ได้เอาความสามารถในการสนทนาฝ่ายจิตวิญญาณ หรือ ภาษาของฝ่ายจิตวิญญาณของไป ทำให้เขาไม่สามารถนมัสการพระเจ้า ในจิตวิญญาณและความจริงได้ สำหรับพวกเขาได้ถูกข่มเหงให้กราบไหว้ นิมโรด เป็นกฏพิเศษ

พระเยซูคริสต์ได้กล่าวว่า ผู้ซึ่งนมัสการพระเจ้า ควรนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง

ยอห์น 4:23 แต่เวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้อง จะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์
4:23 But the hour cometh, and now is, when the true worshippers shall worship the Father in spirit and in truth: for the Father seeketh such to worship him.

ยอห์น 4:24 พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง 4:24 God is a Spirit: and they that worship him must worship him in spirit and in truth.

จากหนังสือชื่อ Mystery Babylon The Great Whore ( ความลึกลับของบาบิโลน วิวรณ์ 17:5 )

Robert G. Barbaria โรเบิร์ต์ จี บาร์บาเรีย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น