เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

การถวายเครื่องบูชา และ การสำนึกผิด กลับใจแท้จริง



การถวายเครื่องบูชา และ การสำนึกผิด กลับใจแท้จริง
ในพันธสัญญาเก่า ไม่ได้มีการสัญญาในการยกโทษความผิดบาป โอกาศที่จะยกโท
ษความผิดบาปของคนๆหนึ่ง สามารถให้อภัยความผิดที่ทำโดยการถวายบูชาในการไถ่บาป ในสิ่งที่แต่ละได้ทำผิดนั้น หรือในความผิดที่ทำต่อพระเจ้า ได้มีเครื่องถวายบูชาหลายอย่าง ที่จะถวายบูชาเป็นค่าไถ่แด่พระเจ้า แล้วแต่บาปแต่ละชนิดที่ได้ทำ ในตอนนั้น ยังไม่ได้มีการสำนึกผิดกลับใจ จากการประพฤติผิด แต่แบ่ง ส่วนการถวายบูชาค่าไถ่บาปสำหรับคนเหล่านั้นที่ได้ทำผิดบางสิ่ง บางอย่างที่สำคัญต่อพวกเขา สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้คนที่ทำผิดได้สำนึกสิ่งที่ตัวเองได้ทำผิด การถวายบูชาเทียบเท่ากับการจ่ายราคาค่าความผิด ที่ใช้กับสมาชิกในครอบครัว กับเพื่อนบ้าน คนที่รู้จักหรือต่อคนที่ไม่รู้จัก (แปลกหน้า) ซึ่งได้กระทำผิดจริง จากสาเหตุความผิดนั้น คนที่ทำผิด ยอมรับผิด ถวายสิ่งที่เขาทำในการกระผิดของพวกเขา

ดังนั้นจึงไม่มีการกลับใจจากสิ่งที่ได้ทำผิด การยอมรับผิดคือการถวายบูชา หรือการเรียกร้องค่าเสียหายจากการทำผิดนั้น ถ้าคนหนึ่งคนใด ได้ทำผิดต่อพระเจ้า หรือต่อผู้อื่น และถ้าเขาได้ปฏิเสธ ที่จะยอมรับผิดในการกระทำนั้น เขาก็ไม่ยอมรับที่จะไปทำการถวายบูชาค่าไถ่บาป สำหรับในความผิดที่ได้ทำต่อพระเจ้า การลงโทษความผิดนั้น พระเจ้าจะเป็นจะเป็นผู้ตัดสินว่าคนนั้นได้ทำบาปผิดต่อพระเจ้าหรือไม่ เป็นผู้บริสุทธิ์หรือ เป็นผู้ได้ทำผิดจริง แต่อย่างไรก็ตาม การลงโทษจะมากขึ้นกว่าที่ได้ถวายบูชา ที่ยอมรับผิดตั้งแต่เริ่มแรก

ในกรณีที่ได้ทำผิดต่อบุคคล และสิ่งที่ทำผิดนี้ได้ ถูกปฏิเสธ จากคนที่ทำผิดไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ในความผิดที่ได้เกิดขึ้น พวกเขาก็จะไม่ยอมรับในการถวายบูชา เป็นการจ่ายราคาค่าทำความผิดบาป ศาลผู้ใหญ่จะทำการสอบสวน ว่าพวกเขาได้บริสุทธิ์หรือ ทำผิดจริงจากสาเหตุที่เกิดขึ้น

ถ้าเรื่องนี้ถึงผู้ใหญ่ที่สอบสวน เป็นการเสี่ยงในการลงโทษความผิดบาปก็มากขึ้นจากสาเหตุที่ได้สืบสว ในบางกรณีคนที่ทำผิดต้องจ่ายมากกว่าที่ควรจ่ายถ้ายอมรับผิดตั้งแต่แรก และบางครั้งในบางกรณีอาจถูกลงโทษถึงตาย หลายครั้งที่เขา ไม่ได้ทำผิดแต่ได้ยอมรับการถวายบูชาค่าไถ่บาป เพราะกลัวเรื่องการลงโทษไปถึง ผู้ใหญ่ จะพบว่าเขามีความผิดจากสาเหตุนั้น ในกรณีต่างๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำผิดต่อพระเจ้าหรือ การทำผิดต่อบุคคล โดยการถวายบูชา และยอมรับผิดจากการกระทำนั้นๆ การสำนึกกลับใจจากความผิดเลยไม่ได้จำเป็นต่อพันธสัญญาเก่า และการถวายบูชาเป็นการแทนที่การสำนึกผิดและกลับใจจากบาปที่ทำ


พันธสัญญาใหม่เกี่ยวการถวายบูชา

พระเจ้าได้ยกเลิกพันธสัญญาเก่าที่ได้ให้กับคนยิว(อิสราเอล) ตอนที่พระเยซูคริสต์ได้ตรึงตายบนไม้กางเขน พระเจ้าได้ทำพันธสัญญาใหม่ที่จะใช้กับมนุษย์ทุกคนที่อยู่บนโลก พระเจ้าไม่ได้เปลี่ยนกฏเกณฑ์ และกฏหมาย(โมเสส) ในพันธสัญญาใหม่ กฏเกณฑ์ต่างๆที่ได้ทำเกี่ยวกับการถวายบูชา ยังคงนำมาใช้กับพันธสัญญาใหม่ เหมือนพันธสัญญาเก่า สิ่งที่ได้เปลี่ยนคือสิ่งที่นำมาเป็นการถวายบูชา

เลือดจากสัตว์ที่นำมาถวายบูชาที่ต้องการสำหรับชำระความผิดบาป ในพันธสัญญาเก่า ดังนั้นเลือดนี้จำเป็นสำหรับการยกโทษความผิดบาป ในพันธสัญญาใหม่ ในพันธสัญญาใหม่เลือดที่ไหลออกได้นำมาเป็นการถวายบูชา จำเป็นต้องเป็นเลือดของพระเยซูคริสต์เจ้า พระคำภีร์หมายถึง เลือดของลูกแกะที่บริสุทธิ์ พระคำภีร์ได้บอกถึงพระเยซูคริสต์ เปรียบเสมือนลูกแกะของพระเจ้า

การถวายบูชานี้ เป็นลูกแกะของพระเจ้าที่บาปของทุกคนจะถูกยกโทษ การถวายบูชานี้ จะนำมาใช้ได้กับทุกๆคน และได้กำจัดสิ่งที่จำเป็นในการที่จะ ถวายบูชาส่วนบุคคลออกไป พระเมษโปดกของพระเจ้าคือลูกแกะของพระเจ้า วิวรณ์ 5:6
ยอห์น 1:29 วันรุ่งขึ้นยอห์นเห็นพระเยซูกำลังเสด็จมาทางท่าน ท่านจึงกล่าวว่า จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย
The Lamb of God Rev. 5:6
John 1:29 The next day John seeth Jesus coming unto him, and saith, Behold the Lamb of God, which taketh away the sin of the world.

สิ่งที่มาถวายบูชาซึ่งเป็นลูกแกะของพระเจ้า เป็นถวายบูชาแบบนิรันดร์ ที่ซึ่งในพันธสัญญาเก่า การถวายบูชาจะแยกเป็นแต่ละบุคคล ใช้แยกเป็นแต่ละครั้งของการทำผิด พระเยซูคริสต์เป็นลูกแกะถวายบูชาชำระบาปแบบนิจนิรันดร์

ดังนั้นการถวายบูชาแบบนิจนิรันดร์ หมายถึง การถวายบูชาของพระองค์ที่ซึ่งเป็นสัญญาของการยกโทษความผิดบาปได้ยกโทษ การถวายบูชาของแต่ละคนนั้นอาจจะพบหรืออาจจะไม่พบว่าเป็นการยอมรับจากพระเจ้า ในขณะที่ถวายบูชาตอนที่ทำผิดนั้น ถ้าพระเจ้าไม่ได้ยอมรับการถวายบูชานั้น บาปของเขายังคงอยู่ถึงแม้ว่าเขาได้ถวายบูชาไปแล้ว ด้วยความเมตตาของพระเจ้า ได้จัดเตรียมลูกแกะของพระองค์ พันธสัญญาใหม่ ดังนั้นการจ่ายราคาค่าทำบาป เป็นพันธสัญญาทำขึ้นโดยพระเจ้าและไม่ได้เป็นส่วนตัวเหมือนกับพันธสัญญาเดิม(เก่า)

การกลับใจจากความผิดบาป

โดยพระคุณของพระเจ้าได้จัดเตรียม การถวายบูชาสำหรับความผิดบาป และได้จ่ายราคาของค่าไถ่บาป และการถวายบูชาในแต่ละคนนั้นก็ไม่จำเป็นต่อการชำระจากเลือดสัตว์ นี้ก็เพราะว่า การทำผิดในแต่ละคนไม่ต้องจัดเตรียมอะไรมาไถ่ต่อความบาปที่เขาได้ทำผิด และไม่ต้องมาทำถวายในความผิดของเขา แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาในแต่ละคนที่ทำผิดบาป จำเป็นต้องสำนึกผิดกลับใจแท้จริง ก่อนที่จะได้รับการชำระด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ เพราะการถวายบูชาของพวกเขาแต่ละคน คือการกลับใจจากบาปผิดที่เขาได้ทำ

โบสถ์ได้สอนเกี่ยวกับเรื่องการกลับใจจากบาปว่าอย่างไร

ดังนั้นผมได้พบว่าโบสถ์ต่างๆ ในการตกลงในเงื่อนไขการกลับใจนี้ ผมยังไม่ได้เห็นการตกลงที่เป็นการยอมรับในเรื่องของการ ยกโทษความผิดบาป พวกเขาได้สอนว่าถ้าแต่ละคนได้สารภาพบาปของตัวเอง ก็จะได้รับการยกโทษ โบสถ์ที่ทำงานยามว่าง ได้เอาคำพูดของพระเยซูคริสต์ เพราะว่าพระเจ้าได้ยกโทษบาปของท่านดังนั้นท่านก็ยกโทษให้คนอื่นๆด้วย นั้นก็เป็นความจริง แต่อย่างไรก็ตาม นั้นก็เป็นเงื่อนไขในบางส่วน โบสถ์ต่างๆ ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญ ในเงื่อนไขว่า การกลับใจเป็นการถวายบูชา ดังที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ พระคำภีร์ได้เขียนบันทึกบอกไว้ ในการอ้างถึงเหตุการณ์นี้ และจะได้พบกับความจริงที่เน้นในการกลับใจจากการทำผิดบาป

จงยกโทษถ้าท่านอยากได้รับการยกโทษ มก 11:25 ลก 17:3-4
มัทธิว 18: 21 ขณะนั้นเปโตรมาทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า หากพี่น้องของข้าพระองค์จะกระทำผิดต่อข้าพระองค์เรื่อยไป ข้าพระองค์ควรจะยกความผิดของเขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งหรือ
Forgive If You Want Forgiveness Mark 11:25 Luke 17:3-4 )
Matthew 18:21 Then came Peter to him, and said, Lord, how oft shall my brother sin against me, and I forgive him? till seven times?

มัทธิว 18: 22 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า เรามิได้ว่าเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น แต่เจ็ดสิบครั้งคูณด้วยเจ็ด Matthew 18:22 Jesus saith unto him, I say not unto thee, Until seven times: but, Until seventy times seven.

พระคำตอนนี้ เปโตรได้ถาม พระเยซูคริสต์ ว่าเขาจะต้องให้อภัยคนอื่นๆที่ทำผิดต่อเขากี่ครั้ง และมีการจำกัดว่ากี่ครั้งไหมที่จะต้องยกโทษ พระเยซูคริสต์ ตรัสตอบ เปโตรว่า ไม่ได้มีความจำกัดว่าจะยกโทษกี่ครั้ง ต่อวัน พระคำภีร์ไม่ได้เรียกร้องการกลับใจจากบาป โดยผู้ที่ทำผิด กำลังหาการยกโทษความผิดบาป เพราะไม่ได้เขียนเงื่อนไขการยกโทษความผิดบาป และ ลักษณะการทำเพียงเท่านี้ คือหมายถึงไม่ได้จำกัด ว่ากี่ครั้งที่ต้องยกโทษ

แต่สาวกมัทธิว ได้เข้าใจในเงื่อนไขของการกลับใจจากบาปถึงได้รับการให้อภัยบาป และเขียนบันทึกไว้ในพระกิติคุณ และลูกา ได้ทำให้เข้าใจเงื่อนไข การยกโทษบาปต้องมีการกลับใจแท้จริงจากบาป จึงได้บันทึกไว้ด้วย

ลูกา 17: 3 จงระวังตัวให้ดี ถ้าพี่น้องทำการละเมิดต่อท่าน จงเตือนเขา และถ้าเขากลับใจแล้ว จงยกโทษให้เขา Luka 17: 3 Take heed to yourselves: If thy brother trespass against thee, rebuke him; and if he repent, forgive him.

ลูกา 17: 4 แม้เขาจะทำการละเมิดต่อท่านวันหนึ่งเจ็ดหน และจะกลับมาหาท่านทั้งเจ็ดหนในวันเดียวนั้น แล้วว่า ฉันกลับใจแล้ว จงยกโทษให้เขาเถิด Luka 17: 4 And if he trespass against thee seven times in a day, and seven times in a day turn again to thee, saying, I repent; thou shalt forgive him.

พระคำของพระเจ้าได้บอกไว้อย่างชัดเจน ในการยกโทษความผิดบาป ทั้งในพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าจะไม่ยกโทษให้ท่าน ถ้าท่านไม่ได้กลับใจใหม่ หรือแม้แต่พระเจ้าจะคาดหวังให้ท่าน ยกโทษคนอื่นถ้าเขาไม่ได้กลับใจ ดังนั้นทำไมโบสถ์ทั้วไปสอนแตกต่างออกไป ? พระเจ้าได้อธิบายให้ผมเข้าใจว่า ทำไมโบสถ์ไม่ได้เอาสิ่งนี้ แขวนไว้ที่คอ ที่จะสอนการแบ่งแยกในแต่ละคนว่าทุกคนจำเป็นต้องกลับใจจากบาปแท้จริง

พระเจ้าได้บอกผมว่า โบสถ์ได้มีเป้าหมายสอน โดยคำสอนที่ถูกเปลี่ยนตามที่มนุษย์ได้เขียนกฏขึ้น เพราะโบสถ์ส่วนใหญ่ ผู้นำได้เป็นเชื้อสายของคานาอัน ได้จัดตั้งขึ้น และเชื้อสายคานาอัน (มาจากฮาม ไปถึง นิมโรด) เป็นเชื้อสายที่หยิ่งจองหอง ไม่อนุญาติให้คนกลับใจจากบาป และคำสอนที่ถูกเปลี่ยนทำขึ้นจากมนุษย์มาใช้สอน ได้อ้างว่าทุกคนที่ทำผิดบาปต่อพระเจ้า ไม่จำเป็นต้องกลับใจ พระเจ้าจะยกโทษให้ทุกคนอย่างไม่มีกฏเกณฑ์ เพราะว่าพวกเขาไม่เป็นต้องการไปกลับใจจากคนที่พวกเขาได้ทำผิดด้วย

ลูกา 13:2 พระเยซูจึงตรัสตอบเขาว่า " ท่านทั้งหลายคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านั้นเป็นคนบาปยิ่งกว่าชาวกาลิลีอื่นๆทั้งปวง เพราะว่าเขาได้ทุกข์ทรมานอย่างนั้นหรือ
Luka 13:2 And Jesus answering said unto them, Suppose ye that these Galilaeans were sinners above all the Galilaeans, because they suffered such things?

ลูกา 13:3 เราบอกท่านทั้งหลายว่า มิใช่ แต่ถ้าท่านทั้งหลายมิได้กลับใจเสียใหม่ก็จะต้องพินาศเหมือนกัน

ดังนั้นพระเจ้าตรัสว่า ในโลกนี้ จะไม่มีการยกโทษบาป โดยปราศจากการสำนึกกลับใจใหม่แท้จริง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น